Market Summary 09/03/2018
Close
|
1,775.37
|
Volume
|
Bt72,473M
|
Change
|
-3.53
|
P/E
|
18.27
|
%Change
|
-0.20%
|
P/BV
|
2.07
|
หุ้นแนะนำพิเศษ
SCB (ราคาปิด 148.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 164.18)
- ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังหุ้นละ 4 บาท yield 2.7% XD 17 เม.ย. ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 1.4 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 1.3 เท่าเล็กน้อย ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) 12.37% สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีค่าเฉลี่ยย 9.4%
- เป็นหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นทำให้ความต้องการสินเชื่อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้น laggard จากกลุ่มจากที่ยังต่ำกว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาราว 2%
- ล่าสุด SCB ประกาศความพร้อมเข้าหนุนสินเชื่อให้ EA เพิ่มในโครงการแบตเตอรี่มูลค่า 1 แสนลบ. ทั้งนี้เป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 6-8% ปลายม.ค. 61 สินเชื่อหดตัว 0.12YTD รวมทั้งจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับจูเลียส แบร์ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงกิ้งจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทุนจดทะเบียน 1.8 พันล้านบาท SCB ถือหุ้น 60% ในการให้บริการลูกค้าในประเทศลงทุนในตปท.และการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้า ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 4.6 หมื่นล้านบาท +7%
ส่องหุ้น
TOA แนวรับ 35.50-35.00 บาท แนวต้าน 36.25 , 37.50 บาท
ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 3 สัปดาห์ โดยขยับออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop เล็กน้อย พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ MACD ยังไม่หลุดศูนย์และกำลังดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้น BollingerTop แถวๆ 35.50 บาทซะก่อน เต็มที่ 35.00 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 36.25 บาท ก่อนผ่านขึ้นไปแถวๆ 37.50 บาทต่อไป
BEC แนวรับ 11.80-11.70 บาท แนวต้าน 12.30 , 12.60 บาท
ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์เล็กน้อยโดยปิดได้ในระดับสูงของวัน พร้อมปริมาณวอลุ่มที่สูงขึ้นทำให้ MACD เริ่มดีดกลับใกล้พ้นระดับศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 11.80 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุด11.50 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 12.30 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันแถวๆ 12.60 บาทต่อไป
ECF แนวรับ 6.80-6.75 บาท แนวต้าน 7.15 , 7.50 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 8 วัน ในขณะที่วอลุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและ MACD ที่กำลังดีดกลับขึ้นเหนือศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.80-6.75 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 7.15 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.50 บาทต่อไป
Market View : เคลื่อนไหวในกรอบ
หุ้นแนะนำพิเศษ : SCB
หุ้นมีข่าว : FTE CGD MTLS JUBILE
Technical Insight : CPALL DNA
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงแกว่งตัวในแดนลบเป็นหลัก ท่ามกลางปัจจัยบวกลบคละเคล้า ทั้ง ECB คงดอกเบี้ย น้ำมันอ่อนตัว จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้น การเห็นชอบ กม.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. โดยกลุ่ม ENERG FIN กดดันหลักจากปัจจัยเฉพาะตัว ส่วน COMM หนุน ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,775.37 จุด (-3.53 จุด) Volume 7.18 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +2,814.76 ลบ. TFEX Net -14,005 สัญญา ตราสารหนี้ +5,508.33 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ Down jones ปรับตัวขึ้นแรงกว่า 1.77% อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันทำการ และ Nasdaq ทำ All time High (+1.79%) หลังการรายงานตัวเลขการจ้างงาน (Non-farm) เดือน ก.พ. 61 เพิ่มขึ้นกว่า 3.13 แสนตำแหน่ง มากกว่าคาดที่ 2.22 แสนตำแหน่ง และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบกว่า 2 ปี ท่ามกลางกระแสการเข้าสู่โต๊ะเจรจาระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือกลบความกังวลภาษีเหล็กฯ
+ ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับเพิ่มขึ้น 2.9% หลังการรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ (โดน Baker Huge) ลดลงราว 4 แท่น มาอยู่ที่ 796 แท่น
+/- ประธานเฟดบอสตันหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ประธานเฟดชิคาโกเผยพร้อมรอถึงกลางปี ก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+/- อียู-ญี่ปุ่น-สหรัฐ ร่วมหารือกม.ศุลกากรฉบับใหม่ของสหรัฐที่ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม โดยอียูและญี่ปุ่นต้องการให้ยกเว้นบังคับใช้อัตราภาษีเนื่องจากการเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.45 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ 31.3 บาท/USD
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับขึ้น และการที่สหรัฐมีแนวโน้มยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมให้กับประเทศคู่ค้าสำคัญช่วยลดโอกาสเกิดสงครามการค้า รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ผันผวน ดังนั้นคาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,766-1,786 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- CPF GFPT จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- TVO ราคากากถั่วเหลือง +19.2%QTD ขณะที่ราคาเมล็ดถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้นเพียง 8.7%QTD และได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง
- หุ้นปันผลเด่น ASEFA BAFS CPT CRD FTE GLOW KKP NYT PSH PTTGC SCB SF SIS SMPC SPRC TK TOP WHAUP TISCO QH PDI
- หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 31.3 บาท/$ (ต้นปี 17 อยู่ที่ 34 บาท/$) และราคาทองแดงทรงตัวในระดับสูง 6,915 $/Ton(ต้นปี 17 อยู่ที่ 5,600 $/Ton)
หุ้นมีข่าว
- FTE (ราคาปัจจุบัน 3.16 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.25 บาท) ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้เติบโต 20%YoY ที่ 1.15 พันล้านบาท Backlog 380 ล้านบาท (รับเหมา 260 ล้านบาท Trading 120 ล้านบาท) คาดรับรู้ปี 61 ได้ 70% ปัจจุบันมีแผนเข้าประมูลงงานอีกกว่า 700 ล้านบาท (EGAT 400 ล้านบาท อื่นๆ 300 ล้านบาท) ส่วน 1Q61 คาดผลการดำเนินงานทรงตัว YoY เนื่องจากวันหยุดค่อนข้างมาก แต่จะมีการเปิดสาขาที่ระยองปลาย มี.ค. 61 นี้ ส่วน CLMV คาดเปิดสาขาเวียดนามในปี 62 (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
- ความเห็น ต้องติดตามความคืบหน้าการเข้าประมูลงานของ EGAT อย่างใกลชิด เนื่องจากรายได้จากการรับเหมาจะมีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า FTE จะสามารถคงส่วนแบ่งตลาดในงาน EGAT ได้ราว 65 - 70 % เหมือนในอดีต ขณะที่ความท้าทายตกเป็นของส่วนธุรกิจ Trading เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังมีปัญหาเรื่องการสรรหาบุคลากรมารองรับการขยายสาขาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม Outlook ของอุตสาหกรรมน่าจะยังคงมีการเติบโตของ Demand จากทั้ง โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และ EEC ซึ่งเป็นประเด็นการขับเคลื่อน ศก.หลัก จึงยังเชื่อว่ายังมีโอกาสในการขยายตัวของ FTE อยู่ จึงคงแนะนำ "ซื้อ"
- (+) CGD (ราคาปิด 1.68 ซื้อเก็งกำไร) เนื้อหอม “เทมเพิลตัน” กองทุนใหญ่อเมริกา ดอดบิ๊กล็อตซื้อ 300 ล้านหุ้น ในราคา 1.56 บาท/หุ้น รวมมูลค่า 468 ล้านบาท ฟาก “เบน เตชะอุบล” ชี้กองทุนเชื่อมั่นพื้นฐาน CGD อนาคตเติบโต การันตีผลประกอบการปีนี้เทิร์นอะราวด์ (ที่มา ข่าวหุ้น)
- ความเห็น ผลการดำเนินงานปี 60 ขาดทุน 193 ล้านบาทน้อยกว่าคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยที่คาดว่าจะขาดทุน 238 ล้านบาท ทั้งนี้การเริ่มโอนโครงการเจ้าพระยาเอสเตท ในช่วงปลายปีนี้ (ข้อมูลจนถึง 3Q60 มียอดจองแล้ว 60%)จะทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีโอกาสพลิกทำกำไรจากที่มีผลขาดทุนมาตลอด 3 ปีในปี 58 – 60 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรปี 61 จากระดับเดิมที่ 421 ล้านบาทและราคาเหมาะสมเดิมที่ 1.45 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไรผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้ม turnaround ในปีนี้
- (+) MTLS (ราคาปิด 38.25 Bloomberg Consensus48.80) เผยสินเชื่อ 2 เดือนแรกปี 61 พุ่ง 40% มั่นใจทั้งปีแตะ 8 หมื่นล้าน มั่นใจคุม NPL ไม่เกิน 1.5% พร้อมแจงแผนเปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองไทย แคปปิตอล” หรือ MTC เพื่อลบภาพเช่าซื้อ (ที่มา ข่าวหุ้น)
- ความเห็น เป็นข้อมูลเชิงบวกที่บ่งชี้ถึงการเติบโตต่อเนื่องของรายได้และผลการดำเนินงานในปีนี้ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 3.4 พันล้านบาท เติบโตสูงต่อเนื่องอีก 36%YoY จากปี 59 ที่กำไรเติบโต 70% เป็น 2.5 พันล้านบาท
- เจาะหุ้นกลุ่มเช่าซื้อหลังแจ้งผลประกอบการปี 60 พบ SAWAD คว้ากำไรมากกว่าคาด เผยปีนี้ยังเติบโตระดับสูงต่อ นักลงทุนสถาบันต่างประเทศสนใจเข้าลงทุนระยะยาว เช่นเดียวกับ MTLS-TK-LIT และ ASK ที่มีโอกาสทำกำไรนิวไฮได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
- JUBILE อัดฉีดเม็ดเงินลงทุน 120-150 ล้านบาท เนรมิตสาขาใหม่ทั้ง
- แบรนด์ Jubilee และ Forevermark อัพยอดขายเพิ่ม พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เน้นบริหารต้นทุน เดินหน้าปั๊มมาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 40% (ที่มา ทันหุ้น)
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแผนขยายสาขาซึ่งบริษัทจะเน้นการขยายตัวตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ (Central Robinson และ The Mall) โดยมีการนำข้อมูล Big Data ของลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อให้สามารถทำการตลาดได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 61 เพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 204 ล้านบาทเติบโต 11%YoY โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 16%YoY โดยคาดผลประกอบการใน 1Q61 จะอ่อนตัวลงสู่ 41 ล้านบาท ลดลง 35%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 23%YoY
ข่าวเด่น