Market summary

  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงขายทำกำไรในเช้าช่วงเด่นนำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง EA, GULF, BGRIM และกลุ่มก่อสร้างอย่าง CK, STEC  และกลุ่มอสังหาอย่าง ORI,  ANAN และหุ้น SMID cap หลายตัวเช่น SPA,  AMATA,  JKN และ BEAUTY อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายเกิด technical rebound นำโดย CPALL, PTT, SCC และ PTTGC ส่งผลให้ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,775.3 จุด (-3.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.1 หมื่นล้านบาท เทียบเท่าเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 7.1 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่  2,814 ล้านบาท แต่กลัมาเปิด Short  SET50 index future ที่ 14,005 สัญญา  

Investment theme
  สัปดาห์นี้คาดเกิด  Technical rebound สนับสนุนจากปัจจัยต่างประเทศ  : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐรายงานหลายตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามค่าจ้างต่อชั่วโมง (เติบโตเพียง 0.1% จากเดือนก่อนที่ 0.3%) และอัตราการว่างงานต่ำกว่าคาด สร้างความหวังต่อนักลงทุนว่าโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังไม่แน่ว่าจะเพิ่มถึง 4 ครั้ง (1.00%) ส่งผลบวกทางอ้อมต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในฝั่ง Emerging market ในขณะที่ Trump ตอบรับคำเชิญการเข้าพบของ Kim Jong Un ในเดือนพ.ค. ประเด็นดังกล่าวช่วยลดความกังวลต่อการทดสอบขีปนาวุธบนคาบสมุทรเกาหลีซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนตลอดในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่เราคงแนะนำนักลงทุนติดตามท่าทีสงครามการค้าของยุโรปและจีนภายหลัง Trump ลงนามกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
  Investment Theme: สัปดาห์ที่คาด SET เกิดTechnical rebound บริเวณ 1,790 +/-  แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่คาดผลประกอบการ 1Q61 เติบโตดี นำโดย BH , CPN และ PTT group (PTT, PTTEP) ภายหลังราคาน้ำมันดีดตัวกลับมายืนที่ 65.6 เหรียญอีกครั้ง ภายหลังสหรัฐรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะลดลงเหลือ 796 แท่น (ลดลง 4 แท่น)

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  หอการค้าเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ปรับลงครั้งแรกในรอบ 7  เดือนที่ 79.3 / สหรัฐรายงาน Nonfarm payroll ดีกว่าคาดที่ 300,000 ตำแหน่ง / สภาจีนมีมติแก้กฎหมายเปิดทางให้ Xi Jinping ดำรงตำแหน่งผู้นำตลอดไป / GULF, JKN หลุด Cash balance
  บทวิเคราะห์วันนี้ :  BJC (มีมุมมองเชิงบวก), BGRIM

Stock pick : BGRIM
BGRIM : แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34.0 บาท    
  ราคาหุ้นปรับตัวลงตามกลุ่มกว่า 16% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ Valuation น่าสนใจในการเข้าสะสมอีกครั้งด้วย PER 61 ที่ 24 เท่า ขณะที่คาดกำไรเติบโตสูงกว่า 56%YoY และเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 42% จากปัจจุบัน 
เราคงมุมมองเชิงบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา และทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผน โดยปีนี้ คาดเปิด COD 5 โครงการรวม 263 mw. (+28%) ในทุกๆไตรมาสเป็นต้นไป ในขณะที่มี Upside จากการ Refinance เงินกู้ที่คาดจะช่วยลด Effective interest rate เหลือ 4.5% ในระยะยาว คงคำแนะนำทยอยสะสมราคาเป้าหมาย 34.0 บาท/หุ้น
   Trading idea – – จีนยกเลิกลดโควตาการนำเข้าPlastic recycle ส่งผลให้ความต้องการพลาสติกใหม่ สูงขึ้นบวกต่อ Olefin Spreadขึ้นสู่ 840 เหรียญ/ตัน บวกต่อ SCC, IRPC / ทยอยสะสม PTT, PTTEP จากการปรับสมมติฐานน้ำมันและปริมาณขายขึ้น

Technical View

  พยายามยื้อที่แนวรับสุดท้าย :  ดัชนีแกว่งตีวลงต่อเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน โดยปรับตัวลงทดสอบแนวรับสุดท้ายของกรอบ Sideway บริเวณ 1760 แล้วสามารถดีดตัวกลับระหว่างวันได้ ทำให้เกิดเป็นแท่งเทียนแบบ Hammer ระยะสั้นลุ้นการกลับตัวขึ้น โดยวันนี้หากดัชนีสามารถปิดยืนเหนือ 1775 จะถือเป็นการคอนเฟิร์มสัญญาณกลับตัว มองแนวต้านระหว่างวันที่ 1785 และ 1790 อย่างไรก็ตามหากดัชนีหลุด 1760 จะถือเป็นการทำลายสัญญาณกลับตัวดังกล่าวทันที  กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ระยะสั้นอาจเล่น Rebound สั้นๆ ไปขายที่แนวต้านระหว่างวัน หากต้องการถือหุ้นควรรอจนกว่าดัชนีจะมีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนกว่านี้  2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าจะยืน 1775
แนวรับ : 1765, 1760 แนวต้าน : 1785, 1790

ปัจจัยต่างประเทศ :  13 มี.ค. สหรัฐรายงานเงินเฟ้อ CPI 
  ปัจจัยในประเทศ : ติดตาม 4 Candidate PTT-CEO แสดงวิสัยทัศน์ 

หุ้นเทคนิค:
  PTTGC (B 93.00-94.00, Tp 97.00//98.50, Cut 92.00)
  CPALL (B 86.00, Tp 91.00, Cut 85.00)