คำแนะนำ
เสี่ยงซื้อในบริเวณ 1,313-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นจะมีแนวต้านบริเวณ 1,329-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ควรเน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะจำนวนมาก
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,313 1,302 1,291
แนวต้าน 1,329 1,341 1,352
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานที่บ่งชี้ว่าตัวเลขรายได้หรือค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.0% ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างแรงงานในอัตราที่ชะลอลงหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจไม่จำเป็นต้องเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกดดันสกุลเงินดอลลาร์และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ดีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดโดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่งซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งช่วยหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 440 จุดและปิดที่ระดับเหนือ 25,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด สำหรับวันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,329-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,329-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,313-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น