ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งตัวกรอบจำกัด ภาพใหญ่ยังอยู่ช่วงฟื้นตัว
KGI คาด SET วันพุธไซด์เวย์ เข้าช่วงพักหลังเมื่อวานนี้แกว่งขึ้นต่อ (ตามคาด) จิตวิทยาหุ้นโลกถูกกระทบเล็กน้อยจากปัจจัยการเมืองภายในของสหรัฐฯ แต่ประเด็นหลักด้านเศรษฐกิจถือว่ายังเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอยู่ เมื่อคืนนี้หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง หลังจาก i) โดนัลด์ ทรัมป์ ไล่ รมว.ต่างประเทศ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่ง หลังมีความขัดแย้งเรื่องแนวนโยบายมาพักหนึ่ง (เรามองมีผลต่อตลาดน้อยมาก คล้ายกับในสัปดาห์ก่อน ที่นายแกรี คอห์น หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ลาออก หุ้นโลกลงเพียง 1 วันเท่านั้น) ii) หน่วยงานพาณิชย์สหรัฐฯ เสนอทรัมป์ให้ออกมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ซึ่งเรากำลังติดตามว่าจะเป็นรูปธรรมมากเพียงใด (ถ้าทำจริงและแรง อาจเป็นลบต่อหุ้นโลก) อย่างไรก็ดีปัจจัยเศรษฐกิจค่อนข้างดี สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อพื้นฐาน (core CPI) ก.พ. +1.8% YoY ตาม consensus คาดและเท่ากับตัวเลข ม.ค. ส่งผลให้บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ลดลงจากเมื่อวาน ด้านนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้นไทยได้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร TOA, SIMAT
TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) 1) ประเมินราคาน้ำมันมีโอกาสพักฐาน หลังปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับขึ้นต่อเนื่อง (อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ Commodites Update วานนี้) เป็นบวกต่อหุ้น TOA ที่ต้นทุนการผลิตอิงกับราคาน้ำมัน 2) เรายังคงประเมินแนวโน้มการเติบโตของกำไรในปีนี้ตามประมาณการฯเดิมของฝ่ายวิจัยฯคือ +39% YoY จากการขยายกำลังการผลิต + อัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการปรับราคาขายสีขึ้น ตั้งแต่ มค. 3) ประเมินแนวรับ 35.5 บาท / แนวต้าน 37.5 บาท และถัดไปที่ 38.5 บาท (Trailing stop 34.5 บาท)
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ราคาเริ่มฟื้นตัวมีโอกาสรีบาวด์ โดยประเมินแนวรับ 3.16 บาท / แนวต้านแรก 3.28 บาท หากผ่านได้ แนะนำ "เก็งกำไรตาม" คาดมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3.5 บาท (Stop loss 3.0 บาท) 2) คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ใน 4Q60 และมีโอกาสกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญราวปีก่อนราว 15 ล้านบาทใน 1H61 3) คาดเตรียมประกาศซื้อกิจการที่มีกำไรอยู่แล้วเร็วๆนี้ เบื้องต้นคาดใช้วงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ โดยปัจจุบัน SIMAT มี Interest bearing debt / Equity ต่ำเพียง 0.6 เท่า (ก่อนหน้านี้ มีแจ้งการเข้าทำ due diligence ซื้อกิจการแล้ว) เรายังไม่ได้ใส่ประเด็นนี้ในประมาณการฯ
หุ้นในกระแส
หุ้นทีวีดิจิตอล ประเด็นบวกจากข่าว "เปิดทางคืน 'ไลเซ่นส์' ทีวีดิจิทัลกสทช.แพ้คดี 'ไทยทีวี' เหตุแจกกล่องรับสัญญาณช้า" (นสพ กรุงเทพธุรกิจ) เราประเมินกรณีนี้อาจเป็นการเปิดทางการคืนไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอลของช่องอื่นๆ (โดยเฉพาะช่องที่ไม่สามารถทำกำไรได้) ซึ่งจะทำให้ 1) การแข่งขันในอุตสาหกรรมฯลดลง เป็นบวกต่ออัตรากำไร และ ii) หุ้นทีวีดิจิตอลที่เรตติ้งต่ำ และไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วงที่ผ่านมา จะได้อานิสงส์จากประเด็นนี้ไปด้วย แนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นกลุ่มทีวีดิจิตอล อาทิ BEC, MCOT, GRAMMY, AMARIN เป็นต้น และกลุ่มหุ้นเด่นของฝ่ายวิจัยฯ ได้แก่ MONO*, RS
หุ้นมีข่าว
(+) SCC* ได้หุ้นเวียดนามเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย ชนะประมูลหุ้นบริษัทขายท่อและข้อต่อพีวีซีในเวียดนามใช้เงิน 3,230 ล้าน โอนหุ้นเสร็จภายในเดือน มี.ค. นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทได้ชนะการเข้าประมูลหุ้นของบริษัท บิน มิน พลาสติกส์ จอยท สต็อก (BMP) จาก State Capital Investment Corporation (SCIC) บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นโฮจิมินห์ในสัดส่วน 29.5% โดยใช้เงินทั้งสิ้น 3,230 ล้านบาท
(-) โฆษณาก.พ.ลบ 5% นิตยสารแชมป์โตต่ำ (โพสต์ทูเดย์) นีลเส็นเผยเม็ดเงินโฆษณาเดือน ก.พ. ยังติดลบ 5.94% สื่อนิตยสารคงแชมป์เม็ดเงินน้อย บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) เผยภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า มีการขยายตัวติดลบที่ 5.94% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 7,747 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 8,236 ล้านบาท โดยสื่อที่มีการขยายตัวติดลบมากที่สุดคือ สื่อนิตยสาร ติดลบที่ 37.42% ตามด้วยสื่อเคเบิลทีวี/แซทเทลไลท์ทีวี ติดลบที่ 26.53% สื่อหนังสือพิมพ์ ติดลบ 25.36% สื่อทีวีอะนาล็อก ติดลบ 19.40% สื่ออินเทอร์เน็ต ติดลบ 3.48% และสื่อเคลื่อนที่ ติดลบ 3.09%
(+) SGP*-กฟผ.ฯศึกษาจัดหา LNG (ข่าวหุ้น) นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา บริษัทและบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเป็นผู้จัดหาและจัดส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas–LNG) เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศไทย ตามแผนสำรองพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
(+) WHA* ส่งลูกบุกเวียดนาม ผุดนิคมฯเฟส 1 เม.ย.นี้ (ข่าวหุ้น) WHA* รุกตลาดเวียดนาม ส่งบริษัทลูกผุดนิคมฯ “ดับบลิวเอชเอ เหมราช อินดัสเตรียล โซน–เหงะอาน” ลงทุนเริ่มต้น 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเดิมก่อสร้างเฟส 1 พื้นที่ 498 เฮกตาร์เม.ย.นี้ จ่อเปิดให้บริการไตรมาส 4/61 พร้อมพัฒนาเพิ่มอีก 6 เฟส ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 3,200 เฮกตาร์
(0) BEAUTY* ขายบิ๊กล็อตเพิ่มฟรีโฟลท 80% (กรุงเทพธุรกิจ) หุ้นใหญ่ยันไม่ขายเพิ่มโครงสร้างธุรกิจไม่เปลี่ยน กลุ่มไกรภูเบศขายบิ๊กล็อต 4.66% ให้นักลงทุนสถาบัน ในและต่างประเทศ ดันฟรีโฟลทเพิ่มเป็น 80% ยืนยันไม่กระทบการบริหารงาน และยังไม่มีแผนขายหุ้นเพิ่ม โดยจะรักษาสัดส่วนไว้ไม่ต่ำกว่า 20%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) ประเมินแนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 19.5 บาท และ 20 บาท (Trailing stop 17.7 บาท)
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 29 บาท / แนวต้าน 31.25 บาท และถัดไปที่ 32.75 บาท (Trailing stop 27.25 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) ประเมินแนวรับ 20 บาท / แนวต้าน 20.5 บาท และถัดไปที่ 20.8 บาท (Trailing stop 19.7 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) ประเมินแนวรับ 206 บาท / แนวต้าน 213 บาท และถัดไปที่ 220 บาท (Stop loss 201 บาท)
BANPU* (เป้าพื้นฐาน 27.5 บาท) ประเมินแนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.2 บาท และถัดไปที่ 23 บาท (Stop loss 21 บาท)
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 85 บาท) แนะนำพิจารณาแนวราคา 64 บาท หากยืนเหนือแนวราคาดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสจบการพักฐาน แนะนำ "ถือ / Let profit run" แต่หากไม่สามารถผ่านได้ แนะนำ "ขายล๊อกกำไร"
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TOA แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองบวกจาก i) รายได้มีแนวโน้มแข็งแกร่งในปี 2561 เพราะมีการปรับขึ้นราคาขายสินค้ามาตั้งแต่เดือน ม.ค., อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว และการเติบโตในตลาด AEC ii) ต้นทุนวัตถุดิบลดลง iii) การขยายกิจการในภูมิภาค (อินโดนีเซีย, เมียนมาร์ และ กัมพูชา) ยังเป็นไปตามแผน
กลุ่มสื่อ น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" Nielsen รายงานยอดใช้จ่ายโฆษณาของไทยในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (+4% MoM, -6% YoY) โดย ยอดโฆษณาทีวีดิจิตอล โตมากสุด MoM ในขณะยอดโฆษณาในโรงภาพยนตร์โตโดดเด่น YoY เราคาดว่าธุรกิจโฆษณาน่าจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2Q61 จากทั้งปัจจัยฤดูกาล และภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1810 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1810 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1810-1826 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1810 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1810-1787 จุด
แนวรับวันนี้: 1800/1792 แนวต้านวันนี้: 1810/1819
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น