Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งขึ้น โดยมีแรงซื้อเด่นในช่วงภาคบ่าย ขับเคลื่อนหลักโดยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีการรีบาวน์หลังปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า เช่น EA, BGRIM, GULF ผสานหุ้นพลังงาน (PTT, IRPC) รวมถึงแรงเก็งกลุ่มค้าปลีกที่ยังคง Laggard (GLOBAL, ROBINS)   ส่งผลให้ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,809.9 จุด (+9.58 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 6.3 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายหุ้นไทยเล็กน้อยที่ 341 ล้านบาท แต่เปิด Long  SET50 index future ต่อเนื่องอีก 1,829 สัญญา  

Investment theme
  ผันผวนสั้นตามการเมืองระหว่างประเทศ : เมื่อคืนนี้นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ตัดสินใจปลด นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศ ของสหรัฐฯ หลังเกิดความขัดแย้งบางประการ และเตรียมเลือกนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการ CIA ซึ่งถือเป็นคนสนิทของทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งแทน ปัจจัยดังกล่าว คาดเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อประเด็นสงครามการค้า เสี่ยงที่สหรัฐฯอาจใช้นโยบายแข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อโจมตีจีน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมีเนียม 10% ไปแล้ว อย่างไรก็ดีเราคาดปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกดดันระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้นรอหาจังหวะในการย่อซื้อสะสมหุ้น Big caps พื้นฐานดี ส่วนด้านประเด็นการเมืองของไทย วานนี้มีประเด็นเพิ่มเติมคือ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ การได้มาซึ่งที่มา สว เพิ่มเติม อย่างไรก็ดีหากการพิจารณาของศาลฯ ไม่ได้ล่าช้านัก ก็คาดว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามกรอบระยะเวลาเดิม คือ ไม่เกิน กุมภาพันธ์ 62 ซึ่งถือเป็น Upside Risk ที่สำคัญที่คงต้องจับตาใกล้ชิด
  Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET เกิดTechnical rebound บริเวณ 1,790 +/-  แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่คาดผลประกอบการ 1Q61 เติบโตดี นำโดย BH , CPN และ PTT group (PTT, PTTEP) ในขณะที่เราคาดเกิด Stock rotation เข้าใน SCC, ADVANC

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  Trump ปลดเลขาธิการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ / ตัวเลข CPI สหรัฐฯ เดือน กพ. +2.2%YoY ตามคาด แนะจับตาประชุม FOMC 21 มีค.นี้ ติดตาม Dot Plot  / นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ การได้มาซึ่งที่มา สว. /

 Stock pick : MAJOR
MAJOR : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 35.5 บาท/หุ้น    
  ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้าคาดสะท้อนผลประกอบการ 4Q60 ที่ Bottom out ไปแล้ว และมองว่ากำไรปี 2561จะฟื้นตัวกว่า 45% เป็น 1,300 ล้านบาท สนับสนุนจาก 1) รับส่วนขาดทุนจาก MPIC ลดลง และ 2) ปรับกลยุทธ์ Content หนังจับกลุ่มคนต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น (ปีนี้จำนวนโรงต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นสูงกว่ากรุงเทพเป็นปีแรก) 
  คาดกำไร 1Q61 เติบโต QoQ, YoY จากหนังใหญ่ที่เข้าฉายอาทิ Black Panther (รายได้ตั๋ว 4 วันสูงกว่าสูงกว่า 100 ล้านบาท) โดยในปีนี้มีแผนขยายเพิ่มอีกกว่า 100 โรงทั้งในกรุงเทพ, ต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับนโยบายลดต้นทุนผ่านการใช้ Application ส่งผลให้เป็นจุดที่น่าสนใจในการทยอยสะสม

  Trading idea – – สะสม PTT, PTTEP จากการปรับสมมติฐานน้ำมันและปริมาณขายขึ้น / Olefin spreadเร่งขึ้น บวกต่อ SCC, IRPC, PTTGC / ค้าปลีก %SSSG 1Q61 แกร่ง แนะ BJC, CPALL, ROBINS, GLOBAL,JUBILE/นักท่องเที่ยวต่างชาติ กพ +19.4% (ERW, CENTEL)

Technical View

  ลุ้น Rebound ต่อเนื่องยืน 1820:  ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อหลักหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นขนาดกลางที่ปรับตัวลงแรงก่อนหน้า ทำให้ดัชนีกลับมายืนเหนือ 1800 พร้อมสัญญาณซื้อใน MACD และ Stochastic ระยะสั้นหากผ่านแนวต้าน 1820 ดัชนีมีแนวโน้มกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะมีแนวต้านโซนสุดท้ายที่บริเวณ High 1840-1850 รอบนี้หากอ่อนตัวไม่หลุด 1800 คาดจะมีโมเมนตัมส่งต่อเนื่องให้ Break High ได้ ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับกลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ระยะสั้น เล่น Trading ในกรอบ 1800-1820, ระยะกลาง หาก Break 1820 แนะนำถือต่อ  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันสู่แนวรับ มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น ทั้งเพื่อ Trading และลงทุน
  แนวรับ : 1800, 1794 แนวต้าน : 1820, 1840

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ : 14 มี.ค. รายงานยอดค้าปลีก สหรัฐฯ เดือน กพ. คาด +0.3%MoM 
  ปัจจัยในประเทศ : FTSE Rebalance มีผลราคาปิดตลาดวันที่ 16 มีค.

หุ้นเทคนิค:
  BANPU (B 21.50-21.70, Tp 22.50//23.00, Cut 21.30)
  IVL (B 54.50, Tp 56.50, Cut 53.00)