Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นใน TRUE, CPF และกลุ่ม TV digital นำโดย BEC, WORK, MONO และ MCOT อย่างไรก็ตามยังมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่บางตัวอย่าง PTT, KBANK, CPALL ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,813.4 จุด (+3.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมาที่ 7.1 หมื่นล้านบาท (มี Biglot EASTW 5.2 พันล้านบาท )
นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งกว่า 3,998 ล้านบาท และเปิด Long SET50 index future ต่อเนื่องอีก 6,635 สัญญา
Investment theme
สหรัฐพยายามออกมาตรการลดขาดดุลการค้า : ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนจากประเด็นที่สหรัฐพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดการขาดดุลทางการค้ากับนาๆประเทศ โดยปัจจุบันสหรัฐขาดดุลสูงกว่า 5.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (+5%) ในขณะที่จีนรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ.เติบโตกว่า 44% ส่งผลให้เกินดุลสูงกว่า 2.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเหตุให้ Trump เริ่มออกมาตราการต่างๆเพื่อตอบโต้จีนและพยายามลดการขาดดุล (ปัจจุบันขาดดุลประเทศอย่างจีน, แม็กซิโก, ญี่ปุ่น ,เยอรมัน รวมถึงประเทศไทย) อย่างไรก็ตามเรามองว่า Trump ไม่ใช่เรื่องง่ายและเราเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวมีโอกาสส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง จากการใช้ safeguard จากยุโรปและจีนเพื่อป้องกัน ประกอบกับหากจีนเริ่มลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐจริงอย่างที่คาดการณ์ (ปัจจุบันจีนถือพันธบัตรสหรัฐสูงกว่า 1.18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) อาจส่งกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเรามองว่าสงครามการค้าจะเริ่มรุนแรงมากขึ้นใน 2Q61 อย่างไรก็ตามในระยะแรกเรามองผลทระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างจำกัด แต่ตลาดหุ้นอาจผันผวน แนะนักลงทุนควรถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 20%
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET เกิดTechnical rebound บริเวณ 1,790 +/- แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่คาดผลประกอบการ 1Q61 เติบโตดี นำโดย BH, CPN และ PTT group (PTT, PTTEP) ในขณะที่เราคาดเกิด Stock rotation เข้าใน SCC, ADVANC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ การได้มาซึ่งที่มา สว. / เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 54 เดือนที่ 31.1 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ / สหรัฐรายงานยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาดที่-0.1%
บทวิเคราะห์ : TTCL เพิ่มทุน , Spin off
Stock pick : PTTEP
PTTEP: ทยอยสะสมราคาเป้าหมาย 125.0 บาท
- ในระยะสั้นคาดราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัว ภายหลังเกิดความกังวลต่อแผนการบริหารภายใต้การดำเนินงานของ Trump อย่างต่อเนื่องส่งผลทางอ้อมกดดันค่าเงินดอลลาร์ สะท้อนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง ส่งผลให้ระยะสั้นเราคาดเกิด Technical rebound ในราคาน้ำมันดิบ (brent) ที่บริเวณ 65-67 เหรียญ/บาร์เรล
- เราปรับประมาณการกำไรปี61/62ขึ้น 5.2-9.8% เป็น 3.31 และ 3.46 หมื่นล้านบาท จากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบขึ้นเป็น 60 เหรียญต่อบาร์เรล ในขณะที่เชิงพื้นฐานคาดกำไร 1Q61 มีแนวโน้มเติบโต QoQ จากราคาขายที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยที่คาดลดลง
Trading idea – – เก็งกำไรกลุ่มก่อสร้าง (CK, STEC) ภายหลังรัฐกลับมาเร่งแผนโครงการก่อสร้างนำโดย ท่าเรือแหลมฉบัง phase3 , โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) และสายสีม่วง Phase2
Technical View
ลุ้นยืน 1820 เพื่อเล่นกรอบบน : ดัชนีแกว่ง Sideway Up ในกรอบ 1800-1820 แม้วานนี้กลุ่มพลังงานจะพักตัว แต่กลุ่มรองๆอย่าง สื่อสาร, อาหารและ Media กลับมาโดดเด่น ทำให้ดัชนียังคงปิดบวกได้ต่อ ระยะสั้นยังคงมองว่า หากดัชนีสามารถยืนเหนือ แนวต้าน 1820 ดัชนีมีแนวโน้มกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะมีแนวต้านโซนสุดท้ายที่บริเวณ High 1840-1850 ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ หรือหาก Break 1820 มองว่าเป็นจุด Follow Buy กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ระยะสั้น เล่น Trading ในกรอบ 1800-1820, ระยะกลาง หาก Break 1820 แนะนำถือต่อ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันสู่แนวรับ มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น ทั้งเพื่อ Trading และลงทุน
แนวรับ : 1807, 1800 แนวต้าน : 1820, 1840
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 16 มี.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ+0.3%MoM
ปัจจัยในประเทศ : FTSE Rebalance มีผลราคาปิดตลาดวันที่ 16 มีค.
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 53.50-54.00, Tp 56.00//58.00, Cut 53.00)
BEAUTY (B 19.30, Tp 20.50, Cut 19.00)
ข่าวเด่น