Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อ SCC, ADVANC และกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BH, BDMS และกลุ่มโรงกลั่นอย่าง ESSO, BCP, SPRC อย่างไรก็ตามเกิดแรงขายทำกำไรในกลุ่ม TV digital อย่าง BEC, RS, WORK ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,816.0 จุด (+2.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.1 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมา 7.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 1,073 ล้านบาท และเปิด Long SET50 index future ต่อเนื่องอีก 556 สัญญา
Investment theme
นักลงทุนต่างประเทศเริ่มชะลอแรงขายในตลาดหุ้นและทยอยซื้อพันธบัตร : เราเริ่มเห็นสัญญาณชะลอแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดย QTD ขายสุทธิสูงกว่า 1,550 ล้านเหรียญสหรัฐ, MTD ขายสุทธิ 64 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ WTD พลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิที่ 172 ล้านเหรียญ ซึ่งหากอิงจากสถิติ 9 ปีย้อนหลัง พบว่าเดือนมีนาคมนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสมสูงกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเรามีมุมมองสอดคล้องกับมีนาคมปีนี้ กล่าวคือเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อ ปัจจัยการเมืองในประเทศ ภายหลังกฎหมายทั้ง 4 ฉบับอย่าง กกต., พรรคการเมือง, เลือกตั้งส.ส. และที่มา ส.ว. ผ่านสนช. (หากมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นบางประเด็น เรามองว่ายังอยู่ใน Roadmap เดือนก.พ.2562) ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะนโยบาบการคลังของ Trump ในระยะสั้นจะส่งผลทางอ้อมในดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งถือเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย และ Emerging market แนะนักลงทุนทยอยซื้อหุ้นใหญ่ที่นักลงทุนต่างประเทศมีโอกาสเข้าซื้อสะสมอย่าง BH, ADVANC และ SCC
Investment Theme: ภายหลังกสทช.เห็นชอบพักชำระค่าใช้จ่าย TV digital 3 ปี เตรียมชงครม.อนุมัติปลายเดือนนี้ และ รัฐเตรียมใช้ม.44 ผ่อนชำระค่าคลื่น 900 Mhz เรามองว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์สูงที่สุดได้แก่ TRUE ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง คาดจะส่งผลบวกอย่างมีนัยยะต่อกระแสเงินสด แนะเก็งกำไร เชิงเทคนิคแนวต้าน 7.50 และ 7.85 บาท
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – รัฐบาลเตรียมออก ม.44 ช่วยผู้ประกอบการ TV digital พักค่าธรรมเนียม 3 ปี /ก กสทช.ผ่อนผัน TRUE และ ADVANC แบ่งชำระค่าคลื่น 900mhz เป็นเวลา 5 ปี เตรียมเสนอ ครม. 27 มี.ค.
บทวิเคราะห์ : DRT ตั้งเป้าโตขั้นต่ำ 5% ปันผลเด่น แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 6.50 บาท
Stock pick : ADVANC, SCC , BH
ยอยสะสม ADVANC@220.0 / SCC@550.0 / BH@ 230.0
- SCC : Spread PE-Naptha ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 864 เหรียญ/ตัน (ค่าเฉลี่ย 4Q61 ที่ 654 เหรียญ/ตัน) สนับสนุนจากประเทศจีนลดการใช้พลาสติก Recycle ทำให้มีความต้องการใช้พลาสติกใหม่เพิ่มประมาณ 2-3ล้านตัน ส่งให้เราคาดกำไร 1Q18 ที่ 15,000 ล้านบาท (+19%QoQ,-14%YoY)
- ADVANC : ล่าสุดกทสช.เห็นชอบผ่อนผันจ่ายคลื่น 900mhz แบ่งเป็น 5 ปี คาดเข้าครม.ในช่วงปลายเดือนนี้ เรามีมุมมองเชิงบวกกับประเด็นดังกล่าว และจะส่งผลให้ฐานะกระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยยะ (เดิมต้องจ่าย 6 หมื่นล้านบาท งวดเดียวในปีหน้า) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปชำระหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย (คาดกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 4%) และโอกาสจ่ายปันผลได้ในระดับกว่าปัจจุบันที่ 3.7%
- BH : คาดผลประกอบการ 1Q18 เติบโตประมาณ 10%YoY , 20%QoQ สนับสนุนจาก EBITDA margin(%) ที่คาดทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 35% ในขณะที่จำนวนคนไข้เติบโตประมาณ 3% พร้อมปรับค่าราคาพยาบาลประมาณ 5% ถือว่าสูงที่สุดในกลุ่ม เราคาดกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 4.4พันล้านบาท เติบโต 12%YoY คงคำแนะนำซื้อราคาเหมาะสม 230.0 บาท
Technical View
อ่อนตัวที่แนวต้าน 1820 ระยะกลางไม่ควรหลุด 1800: แรงซื้อจากกลุ่มปิโตรเคมี และโรงพยาบาล ช่วยให้ดัชนีปรับตัวขึ้นปะทะแนวต้าน 1820 แต่ยังคงไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งแนวโน้มหลักขณะนี้ดัชนีกลับตัวขึ้นแบบ Double Bottom โดยระยะกลางเพื่อจะยังคงรักษาโมเมนตัมการแกว่งขึ้นต่อ มองว่าการอ่อนตัวรอบนี้ไม่ควรหลุด 1800 ดัชนีจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหากสามารถผ่านแนวต้าน 1820 เนื่องจากจะกลับแกว่งกรอบบน 1820-1840 ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ระยะสั้น เล่น Trading ในกรอบ 1800-1820, ระยะกลาง หาก Break 1820 แนะนำถือต่อ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันสู่แนวรับ มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น ทั้งเพื่อ Trading และลงทุน
แนวรับ : 1810, 1803 แนวต้าน : 1820, 1840
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 16 มี.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ+0.3%MoM
ปัจจัยในประเทศ : FTSE Rebalance มีผลราคาปิดตลาดวันที่ 16 มีค.
หุ้นเทคนิค:
BEAUTY (B 19.50-19.70, Tp 20.50//21.00, Cut 19.30)
PTTGC (B 97.00, Tp 100.50, Cut 96.25)
ข่าวเด่น