ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลัง IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันมาแตะระดับ 99.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561
(+) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียได้เพิ่มมากขึ้น หลังสหรัฐฯ ได้ประกาศการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องของรัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และการโจมตีทางไซเบอร์
(-) IEAคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันโลก โดยเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่แตะระดับ 10.38 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา
(-) กลุ่มโอเปกก็ได้คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตนอกกลุ่มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2561 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าในเดือนพฤศจิกายนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.87ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการผลิตจากสหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร บราซิล และจีน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้จากประเทศศรีลังกา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากการเร่งการผลิตน้ำมันเบนซินของจีนเพื่อให้ปริมาณการส่งออกเทียบเท่ากับโควต้าการส่งออกของภาครัฐฯ
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ปรับตัวลดลงในช่วงโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง โดยปริมาณสต็อกน้ำมันชนิดกลางในญี่ปุ่นได้ปรับตัวลดร้อยละ 1.2 จากสัปดาห์ก่อนหน้า ลงไปแตะระดับ 24.67 ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ59 -64เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62 -67เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9มี.ค. 2560ปรับเพิ่มขึ้น 5.0ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 430.9 ล้านบาร์เรล
กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย EIA คาดปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ ในปี 2561จะปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 11.2ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาส 4ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ แซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย หลังเกิดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ส่งผลกระทบให้ลิเบียต้องประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) และหยุดดำเนินการผลิตจากแหล่งน้ำมันดิบ El Feel ซึ่งมีกำลังการผลิตราว 70,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าลิเบียจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในการเปิดดำเนินการแหล่งผลิตน้ำมันดิบดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 7มี.ค. 61ก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบ : 15 มี.ค. 61
เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 61.19 0.23
เบรนท์ 65.12 0.23
ดูไบ 61.26 0.16
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล 15 มี.ค. 61 เปลี่ยนแปลง_
เบนซินออกเทน 95 75.26 0.60
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 76.20 -0.40
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.32 0.39
น้ำมันเตา (3.5% S) 57.37 -0.02
ดัชนีและราคาที่สำคัญ 15 มี.ค. 61
เปลี่ยนแปลง
เงินดอลลาร์ (เหรียญสหรัฐฯ ต่อ ยูโร) 1.2304 -0.0061
ดัชนีอุตสหกรรมดาวโจนส์ (จุด) 24,873.66 115.54
ราคาขายปลีก (บาท/ลิตร)
UG95 GSH95 GSH91 E20 E85 Diesel
ราคาขายปลีก 34.46 27.35 27.08 24.84 20.14 26.59
หมายเหตุ : ปตท.-บางจาก ปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิด 50 ส.ต./ลิตร ยกเว้น E85 ปรับลด 30 ส.ต./ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่6มี.ค. 61ราคาน้ำมันเป็นราคาขายปลีก กทม. และปริมณฑล ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
ข่าวเด่น