คำแนะนำ
ซื้อขายทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,302 1,291 1,283
แนวต้าน 1,321 1,332 1,341
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ดีราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเวลาต่อมาจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐหลังสื่อรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมพิจารณาปลดนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษแม้ว่าทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธในภายหลังก็ตาม ประกอบกับยูโรและปอนด์แข็งค่าขานรับข้อตกลงในการอนุญาตให้สหราชอาณาจักรยังคงอยู่ใน EU ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2020 แม้มีบทบาทและอำนาจที่ลดน้อยลง ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าและดัชนีดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 335 จุดนำโดยการดิ่งลงของหุ้นเฟซบุ๊กหลังมีข่าวว่า แคมบริดจ์ อนาลิติกาสามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +10.62 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแต่แนะนำติดตามการประชุม G20 ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือกันเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐ,ความตึงเครียดการค้าสหรัฐ-จีนเป็นวาระหลักในการประชุม
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด แต่หากผ่านไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปนั้นยังประเมินในโซน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
การเข้าซื้อยังคงเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,321ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น