Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นเผชิญกับแรงขายในช่วงบ่ายภายหลัง ประธานสนช.ยื่น พ.ร.บ.ที่มา ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยมีแรงขายเด่นในหุ้นใหญ่นำโดย PTT, SCC, BANPU, AOT และหุ้นขนาดกลางอย่าง ANAN, RS, RSP อย่างไรก็ตาม เห็นแรงซื้อเด่นใน TRUE, INTUCH และ GL ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,799.7 จุด (-11.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานที่ผ่านมา 7.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,024 ล้านบาท และเปิด Short SET50 index future ที่ 3,116 สัญญา
Investment theme
จับตาปัจจัยการเมืองต่างประเทศและในประเทศ: ปัจจัยการเมืองต่างทั้งในและต่างประเทศเริ่มมีบทบาทสำคัญต่อตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยภายหลังสหรัฐได้พยายามลดการขาดดุลการค้าผ่านกำแพงภาษี โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ประเทศจีน (ปัจจุบันจีนเกินดุลการค้าสหรัฐสูงทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 2.7 แสนล้านเหรียญ) โดยล่าสุดได้ลงนามใช้กฎหมาย Taiwan Travel Act. เปิดทางให้สหรัฐและไต้หวันสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าหากัน ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎ One China principle ซึ่งเรามองว่าเป็นการจุดชนวนสงครามการค้าระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ในขณะที่การเมืองไทยร้อนไม่แพ้กัน โดยเมื่อวานที่ผ่านมาประธาน สนช.ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยเราแนะนักลงทุน ติดตามศาลว่าจะพิจารณาเพียงบางมาตราหรือทั้งใหม่หมด ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดกรอบการเลือกตั้งว่าจะยังอยู่ใน Roadmap เดือนก.พ.มั้ย (เบื้องต้นไม่มีเวลากำหนดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเสร็จเมื่อใด) ในขณะที่จับตานายกพิจารณากฎหมายเลือกตั้งส.ส. ว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อหรือไม่
Investment Theme: คงคำแนะนำชะลอการลงทุน และรอดูศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็น พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว. โดยวันนี้เรามองว่า SET ไม่ควรหลุดแนวรับ 1,795 (หากต่ำกว่า แนะ Cut loss / take profit) และมองแนวรับถัดไปบริเวณ 1,780 และ 1,760 ตามลำดับ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – Putin ชนะการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีก 6 ปี ด้วยคะแนนเสียงประมาณ 76.4% / จีนตั้ง Yi Gang เป็นผู้ว่า PBOC / สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้า Techno, ICT เพิ่มจากจีน / EU บรรรลุข้อตกลงอนุญาตให้อังกฤษอยู่ในยุโรปต่อถึงสิ้นปี 2563 / CME คาด FED เพิ่มดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้สูงถึง 94.4% / Dollar กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 89.8
บทวิเคราะห์ : BGRIM ขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ (0.30 บาท)
กลยุทธ์การลงทุนรับปัจจัยการเมืองPTTEP
ประเด็น ส.ว. เมื่อวานที่ผ่านมา สนช. ส่งร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
หากศาลวินิจฉัยเป็นบางบทเฉพาะกาล คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,790-1,800 จุดแนะทยอยสะสมหุ้น PTT Group (PTTEP, PTTGC) และ ADVANC
หากศาลวินิจฉัยใหม่ทั้งร่าง คาด SET เผชิญกับแรงขาย แนะชะลอการลงทุน และมองแนวรับบริเวณ 1,760 +/- เลี่ยงการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่สภาพคล่องต่ำ
ประเด็น ส.ส. อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้จับตา นายกประยุทธ์พิจารณาว่าจะยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ?
หากนายกยื่น (อิงจากนายพรเพชร ประธาน สนช. คาดทำให้การประกาศล่าช้าไปประมาณ 2 เดือน) เราคาด SET เผชิญกับแรงขาย แนะชะลอการลงทุน และมองแนวรับบริเวณ 1,760 +/-
Technical View
หากยืน 1800 ไม่ได้ มีโอกาสลงทดสอบแนวรับ 1780: ดัชนีปรับตัวลงหลุด 1800 จากแรงขายหลักของหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้จะมีแรงซื้อในกลุ่มสื่อสารและโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถประคองดัชนีไว้ได้ ระยะกลางมองว่าหากไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1800 จะทำให้ MACD ตัดเส้น Signal เกิดเป็นสัญญาณลบ ส่งผลให้ดัชนีจะมีแนวโน้มแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1780-1785 ระยะสั้นหลังหลุด 1800 แนะนำให้ Lock Profit บางส่วน แล้วพิจารณาการหยุดลงตามแนวรับระหว่างวันเพื่อ Trading เล่น Rebound ภายในวัน กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ต้อง Lock Profit บางส่วนหลังหลุด 1800 หากยังมีหุ้น หลุด Low 1797 แนะนำ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น: พิจารณาแรงซื้อกลับบริเวณแนวรับระหว่างวัน เพื่อเล่น Rebound และขายทำกำไรในวัน
แนวรับ : 1793, 1780 แนวต้าน : 1805, 1810
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงาน PMI ภาคผลิตและบริการ 22 มี.ค.
ปัจจัยในประเทศ: จับตาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่มาส.ว.
หุ้นเทคนิค:
TMB (B 2.72-2.74, Tp 2.94//3.00, Cut 2.68)
BANPU (B 20.50, Tp 21.60, Cut 20.30)
ข่าวเด่น