คำแนะนำ
อาจรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,329-1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากไม่อยากแบกรับความเสี่ยงควรชะลอการเปิดสถานะขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,329 1,318 1,307
แนวต้าน 1,346 1,355 1,366
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรหลังดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับการเกิดสงครามทางการค้าหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีรายการสินค้าที่จะตกเป็นเป้าหมายแล้วจำนวน 1,300 รายการอีกทั้งอาจมีมาตรการอื่นๆตามมาอีก อาทิ การตั้งข้อจำกัดต่อการลงทุนของจีนในสหรัฐและการให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้าลง 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งความวิตกดังกล่าวกดดันดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 700 จุดและเป็นปัจจัยหนุนที่ช่วยพยุงราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ความวิตกดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชียจึงต้องจับตาว่าทางการจีนจะกระทำการตอบโต้สหรัฐหรือไม่อย่างไร รวมถึงติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ และติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการการปิดหน่วยงานของรัฐหรือชัตดาวน์
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,329-1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแรง ทำให้ตลาดยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวก แสดงให้เห็นว่าแรงขายทำกำไรไม่มาก โดยหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับแรก ยังมีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,352-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ต้านสำคัญ)
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,329-1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,341-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากผ่านได้ชะลอการขายไปแนวต้านบริเวณ 1,352-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น