ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน หุ้นไทยวานนี้ เปิดทำการแดนลบ (26/03/61)


 Market Summary 23/03/2018

Close

1,794.21

Volume

Bt50,684M

Change

-4.34

P/E

18.48

%Change

-0.24%

P/BV

2.09


 

หุ้นแนะนำพิเศษ

TVO (ราคาปิด 33.25 บาท Bloomberg Consensus 40.18 บาท)

  • ในระยะสั้น คาดได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก ราคากากถั่วเหลือง (เป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่า 60%) ที่มีการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการแล้วราว 6.6% (หลังจากที่อ่อนตัวจากจุดสูงสุดกว่า 10.4%) หลังจากมีกระแสความแห้งแล้งในประเทศอาร์เจนตินา (ผู้ส่งออกกากถั่วเหลืองอันดับ 1 ของโลก) อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันอาจมีการปรับลดการคาดการณ์ผลผลิตลงต่ำกว่า 40 ล้านตัน ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 9 ปี ขณะที่ราคาเม็ดถั่วเหลือง (ต้นทุนกว่า 90%) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันเพียง 1.2% บ่งชี้ส่วนต่าง (Crush margin) ที่มีโอกาสทำ New High อีกครั้ง
  • หากพิจารณาประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบัน ในช่วง 5 วันทำการก่อนหน้าที่อ่อนตัวลง 4.3% สะท้อนความ Laggard ได้บางส่วน นอกจากนี้ Bloomberg Consensus ยังคาดหวัง Upside จากราคาหุ้น ราว 20.8% เงินปันผลในอัตราที่ราว 6.4%        

ส่องหุ้น
WP  แนวรับ 10.20-10.10 บาท  แนวต้าน 10.80-10.90 , 11.80 บาท
  ระดับราคายังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่ยังสม่ำเสมออีกทั้งระดับราคาที่ผ่านขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกครั้งแล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 10.20-10.10 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 10.80-10.90 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อได้แถวๆ จุดสูงสุดเดิมในรอบเดือนครึ่งแถวๆ 11.80 บาทต่อไป
KTC   แนวรับ 275 บาท  แนวต้าน 282 , 288 , 299 บาท
  ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่องทำ New high ในรอบสัปดาห์เรียบร้อย และเป็นการทำ New high ในรอบเกือบ 1 เดือนอีกด้วยพร้อมปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านสั้นๆแถวๆ เส้น BollingerTop ที่ 282 บาท หากระดับราคาผ่านเส้นดังกล่าวได้เร็วอาจได้ลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 288 บาทได้อีกครั้ง ในขณะที่แนวรับอยู่แถวๆ 275 บาท หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ นี้ซะก่อน ดัชนียังมีลุ้นขึ้นได้ถึงแถวๆ 299 บาทต่อไป
NETBAY  แนวรับ 36.25-36.00 บาท  แนวต้าน 37.00 , 37.50-37.75 , 38.75 บาท
  ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ได้แล้ว แต่ยังไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันและวอลุ่มยังไม่มาก ในขณะที่ MACD กำลังจะผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์ในอีก 1-2 วันนี้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 36.25-36.00 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 37.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นต่อได้แถวๆ 37.50-37.75 บาทต่อไป ในขณะที่แนวต้านเดิมๆ ยังอยู่แถวๆ 38.75 บาท

Market View  :  กังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ  : TVO
หุ้นมีข่าว  : COMAN  TPCH AGE SNC TRC กสทช. 
Technical  Insight : BIG  SAPPE 
  ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดทำการแดนลบ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการชัทดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ  ขณะที่สงครามการค้ายังปกคลุมตลาดฯ โดยรวมมีแรงขายออกมาในกลุ่ม PROP CONMT COM  แต่ได้รับการชดเชยบางส่วนจาก HELTH PETRO และ ENERG หลังราคาน้ำมันเริ่มทยอยฟื้นตัวระหว่างเวลาทำการส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,794.21 จุด (-4.34 จุด) Volume 5.07 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +647.59 ลบ.  TFEX Net 13,569 สัญญา ตราสารหนี้ +7,274.28 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  +สหรัฐเลี่ยงวิกฤตชัตดาวน์ หลัง"ทรัมป์"เผยได้ลงนามในร่างงบประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
  +น้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังซาอุดิอาระเบียเสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงปีหน้า อย่างไรก็ตามแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐยังเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
  +ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐพุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับในรอบ 9 เดือน
  -ดาวโจนส์ปิดร่วงลงเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก 
  -ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐลดลง 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน
  +/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.15 บาท/USD 
  ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยลบกดดันจากความกังวลสงครามการค้าโลกที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และ Fund Flow ผันผวน โดยตลาดหุ้นยังมีปัจจัยบวกการที่สหรัฐหลีกเลี่ยงชัตดาวน์รอบนี้ได้แล้วและราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น  คาด SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,803 จุด 
กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - PTTEP PTTGC IVL ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 65.88 $/bbl
  - TVO ราคากากถั่วเหลืองพลิกเป็นบวกต่อเนื่องเป็นวันทำการที่ 5 รวมกัน 6.6% เทียบกับราคาเม็ดถั่วเหลืองในช่วงเวลาเดียวกันที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% 
  - CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing
  - GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
  - CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.
  - หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT 
  - หลีกเลี่ยงกลุ่มยางพาราและกลุ่ม NGV ราคายางพาราปรับตัวลง 10%WTD สู่ 165เยน/KG / ยอดใช้ NGV หดตัว.58% ใน 1Q61


หุ้นมีข่าว  

  • AGE (ราคาปิด 1.39 บาท ทยอยซื้อสะสม ราคาเหมาะสม 1.73 บาท)
  • Site Visit : ฝ่ายวิจัยได้มีโอกาสไปเยือนโกดังและที่คัดไซส์ถ่านหิน ของ บ.ย่อย AGE ที่เวียดนามหรือ "VINA AGE" (ถือหุ้น 100%) ซึ่งปัจจุบัน ใช้พื้นที่ก่อสร้างไปเพียง 50% ของพื้นที่ทั้งหมดที่มีการทำสัญญาเช่ากับภาครัฐฯ ปัจจุบันเริ่มต้นจำหน่ายให้กับ Trading Company เป็นหลัก ในระยะกลางถึงระยะยาวจะจำหน่ายให้กับโรงงานโดยตรงและเป็นโรงไฟฟ้าซึ่งเป็น 1 ในแผนพลังงานของประเทศในระยะ 10 ปีข้างหน้า
  • ขณะที่ระยะสั้น สร้าง Volume ให้กับทั้งบริษัทราว 3 หมื่นตัน ในงวด 1Q61 ส่วนปี 60 - 61 - 62 ตั้งเป้ายอดขาย 3 แสนตัน - 6 แสนตัน และ 1 ล้านตันตามลำดับ  โดยจะเกิดจากพื้นที่ในปัจจุบัน (25 ไร่) ทั้งสิ้น คาดเริ่มก่อสร้าง Phase 2 ช่วง 1Q62
  • ความเห็น แม้ตลาดถ่านหินในเวียดนามจะมีความคึกคักต่อเนื่องจาก ศก.ที่เติบโตแรง อย่างไรก็ตาม AGE ย่อมเผชิญกับการแข่งขันบนสินค้าประเภท Commodity เป็นธรรมดา แต่ทั้งนี้ ด้วยประสมการณ์การดำเนินธุรกิจในไทยหนุนให้การเปิดตัวในเวียดนามได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งภาครัฐฯและเอกชนทั้ง การคัดแยกถ่านหินในระบบปิด และการก่อสร้างลานกองถ่านหินที่มีคุณภาพ เพิ่มความต่อเนื่องและเสถียรภาพของคุณภาพถ่าน โดยรวมแนะนำให้ติดตาม Volume ในช่วง 2Q61 - 3Q61 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริษัทตั้งเป้าว่าจะอยู่ในระดับที่คุ้มทุน ในระหว่างที่ "ทยอยซื้อสะสม"
  • กสทช. เดินหน้าประมูลคลื่น 900/1800 MHz หลังกฤษฎีกายันบอร์ดรักษาการทำได้-เชื่อทันก่อนหมดสัมปทาน (ที่มา อินโฟเควสท์)
  • ความเห็น การเปิดประมูบคลื่น เป็นผลบวกต่อ DTAC ผู้ที่มีความเสี่ยงเรื่องใบอนุญาตมากสุด (คลื่น 900/1800 หมดอายุ 11 ก.ย. 61) อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการอนุญาตจากสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับประเด็นการเป็นพันธมิตรร่วมกับ TOT บนคลื่น 2300 Mhz ก่อนจะได้รับความสนใจจากตลาดฯอีกครั้ง จึงแนะนำให้ "เริ่มทยอยซื้อสะสม" DTAC ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus 52.34 บาท
  • SNC Analyst Meeting
  • SNC มี 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจOEM ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำ และอืนๆ โครงสร้างรายได้หลักๆ 65% มาจากเครื่องปรับอากาศ และ 15% จากรถยนต์ 6% จาก T-pump และตู้เย็น 3% มาจากมอเตอร์ไซต์และเครื่องซักผ้า 2% เป็นรายได้อื่น ปี 60 มีการปรับโครงสร้างองค์กร มีการขายและควบรวมบริษัทลูกทำให้บริษัทย่อยขาดทุนลดลง รวมทั้งมีการย้ายสายการผลิตจากแหลมฉบังไปที่ระยอง แต่ถูกชดเชยจากผลกระทบของค่าเงินบาทแข็งค่าและราคาทองแดงที่เพิ่มขึ้นทำให้รายได้และกำไรทรงตัว  โดยมีรายได้ 7.5 พันลบ. +1% กำไรสุทธิ 401 ลบ.ใกล้เคียงปี 59 มี GP 11.7% ลดลงจาก 12.9% ในปี 59 และมี NP 5.3% ลดลงจาก 5.4% ในปี 59
  •  ปี 61 แนวโน้มดีขึ้นทั้งการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก  ผู้บริหารคาดรายได้ทรงตัวจากปีก่อน  แต่การปรับเพิ่มปสภ.การผลิต และการควบคุมคชจ. น่าจะทำให้ผลประกอบการเติบโตได้แต่ยังไม่มาก  ผู้บริหารมองภาพรวมธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ปีนี้เติบโตดี  คาดจะมีออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นใน 4Q61 ส่วนไตรมาสแรกมักเป็นช่วงไฮซีซั่น
  • ความเห็น  การที่บริษัทเพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจในปีที่ผ่านมาคาดปีนี้จะเริ่มเห็นผลดีบ้างในการรักษาระดับการทำกำไรให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แผนลดหนี้น่าจะช่วยลดคชจ.ทางการเงินลงได้  แต่โมเดลธุรกิจในการรับจ้างผลิตยังต้องรอการพัฒนาของลูกค้า  ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 15%ซื้อขายที่ PER 11.6 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 17.2 เท่า แนะนำถือ  โดยต้องติดตามพัฒนาการด้านคำสั่งซื้อใหม่ๆจากลูกค้า
  • (+) COMAN (ราคาเหมาะสม 5.95 ซื้อ ราคาเหมาะสม 8.25) ใส่เกียร์ปั๊มรายได้ปีนี้โต 15-20% เปิดแผนเชิงรุกมุ่งซื้อกิจการเกี่ยวเนื่องกับบริษัทเป็นหลัก หวังมีบริษัทในเครือครบ 6 แห่งภายใน 3 ปีตามแผน เล็งชงบอร์ดขายหุ้น MSL คืนให้ผู้ถือหุ้น (ที่มาทันหุ้น)
  • (+) TPCH (ราคาปิด 11.80 ซื้อ ราคาเหมาะสม 16.74) รมว.พลังงาน คาดสรุปรายละเอียดโครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลชายแดนใต้ 300 MW ใน Q3/61
  • (+/-) TRC  คงเป้ารายได้ปีนี้ 8 พันลบ. หลังตุน Backlog 7.5 พันลบ., คาดรู้ผลประมูลงานกว่า 1 หมื่นลบ.ใน Q2/61
  • (+) SR แจ้งความคืบหน้าในการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่งในสิงห์บุรี-ฉะเชิงเทรา ราว 30  ลบ. (SET news)
  • ANAN Opportunity Day ผู้บริหารเปิดเผยว่าหากโครงการแอชตัน-อโศก มูลค่า 6.7 พันลบ. มียอดจอง 98% ไม่สามารถโอนได้ทันภายในปี 2561 คาดว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้รวมให้ลดลง 18% จากเป้าเดิมเหลือประมาณ 28,000-34,000 ล้านบาท แต่ยังเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.29 หมื่นลบ. ทั้งนี้ 95% ของลูกค้าที่ติดต่อไปยินดีขยายระยะเวลาการโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งนี้บริษัทจะให้ส่วนลดเงินจอง เงินดาวน์ และเงินทำสัญญา 7.5% แก่ลูกค้ากลุ่มที่รอโอนกรรมสิทธิ์ และมี 5% ที่ไม่ต้องการต่อสัญญาซึ่งบริษัทจะคืนเงินให้เต็มจำนวน หรือหากไม่ต้องการเงินคืนอาจเปลี่ยนไปซื้อโครงการอื่นๆ ที่มีระดับใกล้เคียงกันให้เลือกเปลี่ยน 5 โครงการ ได้แก่ แอชตัน จุฬา-สีลม แอชตัน สีลม แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี และ คิว ชิดลม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 มี.ค. 2561 เวลา : 10:18:41

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:03 pm