คำแนะนำ

  หากราคาหลุด 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกไปก่อน ทั้งนี้ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาดีดตัวขึ้นจนสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้สามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อรอทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,346  1,333  1,318
แนวต้าน  1,366  1,376  1,385

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น  6.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ถึงแม้ประเด็นความกังวลเกี่ยวกับสงความทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเริ่มคลี่คลายลงบ้างจนหนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 600 จุด  หลังนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเห็นควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการค้า  ส่วนที่ปรึกษาการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ออกมายืนยันเช่นกันว่าสหรัฐกำลังเจรจากับจีนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า  อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดยได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติม  ได้แก่  สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและ 14 ชาติในสหภาพยุโรป(EU)หลังจากทั้งสหรัฐและ EU มีมติขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขา  ทำให้รัสเซียเตรียมประกาศมาตรการตอบโต้ชาติต่างๆ  สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจนส่งผลให้ราคาทองคำสามารถทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์  ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -3.24 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพี ไตรมาส 4/2017ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค
  แม้ว่าราคาจะค่อยขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้นตาม  แต่ระยะสั้นหากราคาพยายามดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,362-1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  หากราคาสามารถยืนเหนือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดระดับดังกล่าว สำหรับการเปิดสถานะขายอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านหรือยืนได้ให้ชะลอการขายออกไป