ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1810-1815 จุด (27/03/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Let Profit Run รอทำกำไรด้านบน 2018SET Target : 1900

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways Up ซึ่งแข็งแรงกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองว่าคำพูดของทรัมป์น่าจะเป็นการขู่เพื่อให้เกิดการเจรจาและสามารถหาทางออกที่ไม่ส่งผลลบได้ แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากบัญชีบล.และสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.2 พันลบ. 
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1810-1815 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลงเพราะไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดทั้งสิ้น และคาดว่าท้ายที่สุดน่าจะมีการเจรจากันได้ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าระยะนี้จะยังมี Noise เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเข้ามากระทบตลาดซึ่งทำให้การแกว่งตัวอาจมีความผันผวนอยู่บ้าง จึงยังมองว่าหุ้นในกลุ่ม Domestic ยังดูน่าสนใจมากกว่า โดยหลังจากที่เราแนะนำให้สะสมหุ้นเพิ่มในช่วงตลาดปรับฐาน ตอนนี้เน้นถือ Let Profit Run เพื่อรอขายทำกำไรใกล้ๆจุดสูงเดิม
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Domestic Play//Let Profit Run เพื่อรอขายทำกำไร
  หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ADVANC, MINT, MTLS, PTTEP, SC  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$395ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$317ล้าน และไทย US$70ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$78ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาคและสินทรัพย์เสี่ยงหลังความขัดแย้งจีนและสหรัฐผ่อนคลายลง โดยจีนระบุพร้อมเจรจาสหรัฐในประเด็นทางการค้า   

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> FSMART <<

  • แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 15 บาท
  • คาดกำไร 1Q18 กลับมาโต Q-Q, Y-Y จากรายได้ต่อตู้ต่อเดือนที่ดีขึ้น ค่าเสื่อมราคาเร่งตัวลดลง และไม่มีค่าใช้จ่าย SG&A พิเศษ ส่วนกำไรทั้งปีคาด +18% Y-Y อยู่ที่ 640 ลบ. โดยแนวโน้มรายได้บริการโอนเงิน (สัดส่วน 6-7% ของรายได้รวม) ที่กังวลว่าจะถูกกระทบจาก Banking Agent ยังเพิ่มต่อเนือง
  • PE2018 ต่ำเพียง 15 เท่า คิดเป็นเพียงครึ่งเดียวของค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 30 เท่า ขณะที่ การปรับขึ้นของราคาหุ้นวานนี้มาพร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นกว่าค่าเฉลี่ย บ่งชี้ถึงจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกระยะสั้น


ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) กลุ่มสื่อสารและทีวีดิจิตอล ที่ประชุมคณะทำงานช่วยเหลือทีวีดิจิตอลและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กสทช. ออกมาตรการให้พักชำระค่างวดใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 3 ปี  และลดค่าโครงข่ายไม่เกิน 50% เป็นเวลา 2 ปี และขยายเวลาแบ่งจ่ายค่าใบอนุญาต 900 MHz งวดสุดท้ายออกเป็น 5 งวดพร้อมดอกเบี้ย โดยจะนำเสนอต่อ ครม. และ คสช. วันนี้ เพื่อพิจารณาออกคำสั่งมาตรา 44  เราคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการของกลุ่มทีวีดิจตอล (BEC MCOT RS WORK) ดีขึ้น โดย BEC ได้ประโยชน์มากสุด เพราะถือใบอนุญาต 3 ใบ คิดเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย 1.60 บาท, MCOT 0.14 บาท, RS 0.80 บาท, และ WORK 1.98 บาท ส่วนกลุ่มสื่อสารเป็นบวกต่อทั้ง ADVANC และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง TRUE เนื่องจากไม่ต้องแบกรับภาระการจ่ายงวดเดียวถึง 6 หมื่นลบ. โดยจะเหลือเพียงงวดละราว 1.2 หมื่นลบ. พร้อมดอกเบี้ย แนะนำซื้อเก็งกำไร ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) และ TRUE (ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท)
  (0) กลุ่มค้าปลีกสินค้าไอที เมื่อวานนี้ถูกกดดันจากข่าว J.I.B. Computer Group มีแผนเข้า SET ในปี 2021 (มีหุ้นเข้ามาแบ่งเม็ดเงินลงทุน) ซึ่ง J.I.B. ถือเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีที่มีตำแหน่งตลาดใกล้เคียงกับ COM7 และ IT โดยมีจุดแข็งในตลาด Gaming ที่กำลังเติบโตเร็ว แต่ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ยังทำได้ต่ำเพียง 0.2-0.3% (งบปี 2016) เทียบกับ COM7 ที่ 2.7% และ IT ที่ 1.3% เราจึงประเมินการขยับตัวของ J.I.B. จะไม่ทำให้การแข่งขันรุนแรงนัก คงคำแนะนำซื้อ IT ที่กำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ราคาปัจจุบันยังใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี และ Forward PE ยังต่ำเพียง 14 เท่า (ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท) เทียบกับ COM7 ที่ 25 เท่า 
  (+) SEAFCO จากการประชุม Opp Day เรามีมุมมองบวกกับผลประกอบการที่โตสดใสจากการรับรู้ Backlog ณ สิ้นปีก่อนที่ 2.55 พันลบ. (ยังไม่รวมโครงการ One Bangkok ที่พึ่งประมูลได้ล่าสุดราว 1.2 พันลบ.) โดยเป็นสัดส่วนของงานที่รับเฉพาะค่าจ้างซึ่งมาร์จิ้นราว 87% ของรายได้รวม แม้แนวโน้มกำไร 1Q18 จะยังไม่โดดเด่นจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าของรถไฟฟ้าสีส้ม แต่ทิศทางของรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2Q18 เป็นต้นไป จากการเริ่มงานก่อสร้างหลายโครงการใหญ่พร้อมกัน ทั้งรถไฟฟ้าสีส้ม, สีชมพู และ One Bangkok เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้ +88% Y-Y เป็น 291 ลบ. และคงราคาเหมาะสม 10.10 บาท แนะนำซื้อ
  (+) ADVANC เราคาดกำไรปกติ 1Q18 ยังโตดี +3.1% Q-Q และ +5% Y-Y จากรายได้ที่เร่งตัวขึ้นและต้นทุนที่เพิ่มในอัตราชะลอ และมีมุมมองบวกต่อกำไรปีนี้โดยคาด +8.2% Y-Y เติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี ระยะสั้นมี Catalyst หากภาครัฐเห็นชอบการแบ่งชำระค่าใบอนุญาต 900 MHz งวดสุดท้าย ซึ่งจะทำให้ ADVANC ประหยัดภาระดอกเบี้ยจ่ายและเป็น Upside ต่อประมาณการระยะยาวราวของเรา 5% รวมถึงมีโอกาสจ่ายปันผลสูงขึ้น แต่ราคาหุ้น Outperform SET ตั้งแต่ต้นปีทำให้ Upside เริ่มแคบลง เราจึงปรับคำแนะนำลงเป็น ‘ซื้อเก็งกำไร’ จากเดิมซื้อ ราคาเป้าหมาย 220 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

27 มี.ค.

สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)

28 มี.ค.

ไทย: ประชุม กนง.

สหรัฐฯ: 4Q18 GDP ขั้นสุดท้าย

31 มี.ค.

จีน: PMI ภาคการผลิต (มี.ค.)

เม.ย.

ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)

สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (มี.ค.)

เม.ย.

ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง

เม.ย.

สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (มี.ค.)

  • (+) ตลาดหุ้นดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 600 จุด หลังจากมีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐจะเปิดทางเจรจาทางการค้ากับจีน โดยมีเป้าหมายว่าจะลดการขาดดุลลง 1 ใน 3 ของปัจจุบัน
  • (-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังมีการขับนักการทูตในยุโรป, อังกฤษ สหรัฐและแคนนาดา จากการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียในประเทศอังกฤษ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นจากทางรัสเซียในอนาคต
  • (+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นสดใส โดยตลาดคลายความกังวลเรื่องสงครามทางการค้าหลังเกาหลีใต้บรรลุการเจรจากับสหรัฐ
  • ()  ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุด เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.10-31.15 บาท/ดอลลาร์
  • (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับตัวลดลง 0.33 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 65.55 ดอลลาร์/บาร์เรล จากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
  • ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,355 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และเหตุการณ์ขับนักการทูตรัสเซีย

บันทึกโดย : วันที่ : 27 มี.ค. 2561 เวลา : 09:16:47

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:03 am