Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1,800 อีกครั้ง โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่ม PTT นำโดย PTT, PTTEP, PTTGC  และหุ้นกลุ่ม TV Digital อย่าง BEC, WORK, RS และกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, DTAC ,TRUE และเกิด Technical rebound ในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, ROBINS, CPN    ณ.สิ้นวัน  SET ปิดที่ระดับ 1,801.1 จุด  (+6.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.1 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.0 หมื่นล้านบาท   
  นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,189 ล้านบาท และกลับมาเปิด Short  SET50 index future ที่ 1,918 สัญญา  

 Investment theme
  Trade war คาดหวังการเจรจา: 6 เดือนที่ผ่านมา ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนอัตราการเติบโตเศรษฐกิจและตลาดหุ้น นั่นคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกผ่านการส่งออก-นำเข้าสินค้า ซึ่งหากเกิดการกีดกันทางการค้า คาดส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก และคาดทุกฝ่ายจะได้รับผลกระทบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างใน 45 วัน (รวม Public hearing) ที่สหรัฐกำลังพิจารณาระบุสินค้าและประเทศที่จะเพิ่มภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตามสหรัฐเคยได้รับบทเรียนจากการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าสมัยประธานาธิบดี Bush เมื่อปี 2545 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ, ดอลลาร์อ่อนค่ากว่า 25%,การจ้างงานในสหรัฐลดลง และราคาสินค้าวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อเงินเฟ้อ สุดท้ายต้านแรงกดดันจากนานาประเทศและ WTO ไม่ไหว จนต้องยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปในปีถัดมา ในขณะที่เดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. (House of Representative) 435 เสียง ดังนั้นการที่ Trump ยังเดินหน้านโยบายกีดกันการค้า อาจส่งผลกระทบต่อ Swing state (เหล็ก, ถั่วเหลืองและอื่นๆ) ซึ่งเป็นฐานที่ Republican ต้องการในการครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ส่งผลให้เรามองว่าในระหว่าง 15-45 วัน ต่อจากนี้ มีโอกาสที่สหรัฐและจีนจะเปิดฉากการเจรจาข้อตกลงต่างๆ ล่าสุดจีนแถลงเตรียมสั่งซื้ออุปกรณ์ Semi-conductor จากสหรัฐเพื่อลดการเกินดุล ถือเป็นการเริ่มต้นการเจรจาที่ดี ซึ่งมีโอกาสเกิด Technical rebound ต่อตลาดหุ้นทั่วโลก 
Investment Theme: วันนี้แนะนักลงทุนจับตา ครม.พิจารณาการจ่ายคลื่นสัมปทาน 900 mhz ของ ADVANC  และ TRUE ซึ่งหากนายกไม่ใช้ม.44 จริง คาดส่งผลลบเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่ม และคาด SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780-1,810 จุด โดยมองว่ากลุ่มบริการ (service) น่าจะ Outperform ตลาดในช่วง Trade war  จับตา Window dressing

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นกว่า 669 จุด (+2.84%) / จีนเปิดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าเป็นเงินหยวนครั้งแรกเมื่อวาน / Trump      ขับนักการฑูตรัสเซีย 60 คน ออกจากประเทศ

  Stock pick : PTTGC
PTTGC : ทยอยสะสมราคาเป้าหมาย 116.0 บาท    
  เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 สนับสนุนจากการใช้กำลังการผลิต Aromatic , Olefins และราคา HDPE ที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน คาด Margin(%) และ PX spread มากขึ้น และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร HMC, PTTAC เต็มปี ในขณะที่ปัจจุบันจีนยังคงนโยบายลดการผลิตพลาสติก Recycle กระตุ้นความต้องการใช้ PE ให้สูงขึ้นกว่า 2-3 ล้านตัน สร้างกำลังการผลิตใหม่
คาดกำไร 1Q61 เติบโต YoY, QoQ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 116.0 บาท /หุ้น
  Trading idea – – ทยอยสะสม CPALL (เป้าหมาย 94.0 บาท) คาดรายได้เฉลี่ยต่อสาขายังอยู่ในระดับสูงกว่า 5-6%  / ซื้อเก็งกำไร BBL โดยเมื่อคืนทีผ่านมา NVDR เปิดให้ลงทุนอีกครั้ง (235.0 บาท)

Technical View 


  แกว่งตัวขึ้นในกรอบ Ascending Triangle:  หุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร เป็นตัวประคองดัชนี โดยดัชนีสามารถปิดยืนแนวต้านจิตวิทยาที่ 1800  แนวโน้มหลักขณะนี้เป็นการแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Ascending Triangle (low ของดัชนียกตัวขึ้น) โดย RSI ได้ดีดตัวขึ้นจากโซนแนวรับ มองว่าระยะสั้นดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1800-1820 แนะนำทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ หรือ Follow Buy เนื่องจากดัชนีสามารถยืน 1800
  กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ เนื่องจากสามารปิดยืนเหนือ 1800 โดยมองกรอบการเทรด 1800-1820   2) ไม่มีหุ้น: ทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ หรือ Follow Buy บริเวณ 1800
  แนวรับ : 1793, 1785 แนวต้าน : 1810, 1820

  ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงาน Core PCE วันที่ 29 มี.ค.
  ปัจจัยในประเทศ: จับตาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.ประกอบ / รัฐธรรมนูญที่มาส.ว. / 28 มี.ค. ประชุมกนง. 

หุ้นเทคนิค:
  BJC (B 57.00-58.00, Tp 60.00//62.00, Cut 56.50)
  BH (B 206.00, Tp 220.00, Cut 203.00)