Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายเด่น โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารนำโดย KBANK, SCB, KTB และกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL, MAKRO, BJC ในขณะที่เกิด Technical rebound ใน ADVANC และมีแรงซื้อในกลุ่ม Out of home media อย่าง VGI และ PLANB ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,78495 จุด (-17.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติลกับมาซื้อหุ้นไทยที่ 967 ล้านบาท และเปิด Short SET50 index future ที่ 7,306 สัญญา
Investment theme
กลุ่มธนาคารกดดัน / โอกาสเลื่อนการเลือกตั้งสูงขึ้น : นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมตลาดหุ้นแกว่งในกรอบ 1,760-1,820 เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ โดยกลุ่มที่กดดัน SET มากหนีไม่พ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงเฉลี่ยกว่า 5.5% MTD นำโดย กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เป็นผลจากความกังวลการตั้งสำรองลูกหนี้และเพื่อรองรับ IFRS9 (คาดทั้งปี 140bps) ส่งผลให้ Credit cost ของกลุ่มน่าจะยังอยู่ในระดับ ในขณะที่ Loan growth (%) อาจโตประมาณ 3-4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดทั้งปีประมาณ 6-7% เป็นผลกระทบจากภาคเกษตรและ SME ที่ยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศในวันที่ 1เม.ย.นี้ และล่าสุดธนาคารหลายแห่งทั่วประเทศ ร่วมกันลดค่าธรรมเนียมการโอนและจ่ายบิล โดยรายได้ส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3-5% ของรายได้ที่ไม่ใช้ดอกเบี้ย Non-NII (กำไรลดลงประมาณ 1%) สะท้อนการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจ E-payment (Wallet ,LINEpay และอื่นๆ) ล่าสุดมูลค่าตลาดของกลุ่มธนาคารปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13% เรายังคงคำแนะนำเลี่ยงการลงทุนใน KBANK, SCB ในขณะที่ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญ รับพิจารณาพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่มาส.ว. ในบทเฉพาะกาล(มาตรา 91-96) ประกอบกับอยู่ในช่วงรอทีมกฎหมายพิจารณาเตรียมยื่นพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ซึ่งหากทั้ง 2 ฉบับเข้าสู่ขั้นตอนของศาลวินิจฉัยแล้ว Roadmap การเลือกตั้งมีโอกาสถูกเลื่อน แต่จะช้าหรือเร็ว ไม่สามารถกำหนดได้เนื่องจากไม่สามารถระบุเวลาในขั้นตอนของศาล ประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในระยะสั้น-กลาง
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราคงมุมมอง SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780-1,810 จุด โดยคงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 20% และใช้กลยุทธ์ซื้อที่แนวรับ 1,780 จุด และขายทำกำไรบริเวณ 1,810 จุด เพื่อรอดูปัจจัยสนับสนุนจากในประเทศใหม่อีกครั้ง
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50% (มติเสียง 6:1) / สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาสสี่ที่ 2.9% และรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสูงกว่าคาดที่ 1.64 ล้านบาร์เรล
Stock pick : BTS
BTS : ทยอยสะสมราคาเป้าหมาย 10.50 บาท
ในสถานการณ์ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศผันผวน เราแนะนักลงทุนหันทยอยสะสมหุ้น Defensive ที่มีโครงสร้างรายได้มั่นคง, ผันผวนต่ำ, มีปันผล และ Low beta (ราคาหุ้นผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับ SET) อย่างธุรกิจรถไฟฟ้า BTS
3 ธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ 1) ธุรกิจรถไฟฟ้า เติบโตต่อเนื่องและรับรู้รายได้จาก M&E รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย CAGR 5 ปีที่ 25% ซึ่งปลายปีนี้จะเปิดให้บริการส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ และต่อด้วย หมอชิต-คูคตในปีหน้า รวมเป็นระยะทางให้บริการ 67 ก.ม.และ 2) ธุรกิจโฆษณาเติบโตโดยเฉพาะจากกลุ่ม Out of home media สะท้อนผ่านกำไร MACO ที่ทำระดับสูงสุด ในขณะที่ 3) ธุรกิจอสังหา ที่ JV กับ SIRI พลิกกำไรเป็นครั้งแรกจากการโอน The Line จตุจักร-หมอชิต
Technical View
แกว่งตัวลงทดสอบแนวรับกรอบสามเหลี่ยม 1780: ดัชนีปรับตัวลงแรงจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารและค้าปลีก โดยหลุดแนวรับระยะสั้นที่ 1793 พร้อมสัญญาณลบใน MACD ที่เริ่มตัดเส้น Signal ลง ระยะสั้นมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับกรอบล่างสามเหลี่ยมที่ 1780 หากบริเวณดังกล่าวมีแรงซื้อกลับจะยังคงรักษาการดีดตัวขึ้นในกรอบ Ascending Triangle แต่หากหลุด 1780 แนะนำชะลอการลงทุน เนื่องจากมีแนวโน้มแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 1760
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุดแนวรับ 1780 แนะนำ ชะลอการลงทุน เนื่องจากมีโอกาสปรับตัวลงต่อ 2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1780 หากเริ่ม Rebound มองเป็นโอกาสสะสม
แนวรับ : 1780, 1760 แนวต้าน : 1793, 1800
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงาน Core PCE วันที่ 29 มี.ค.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
CPN (B 78.00-79.00, Tp 82.00//86.00, Cut 77.50)
ADVANC (B 203.00, Tp 213.00, Cut 200.00)
ข่าวเด่น