ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน น่าจะยืนได้แล้ว เมื่อวานรับรู้ปัจจัยลบภายในไปมาก (29/03/61)


 ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้              

น่าจะยืนได้แล้ว เมื่อวานรับรู้ปัจจัยลบภายในไปมาก
  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ หลังปัจจัยภายนอกเป็นกลาง และวานนี้ที่ SET ลงแรงกว่าคาด น่าจะรับรู้ปัจจัยลบระยะสั้นในกลุ่มธนาคาร (สงครามค่าธรรมเนียมออนไลน์) และแรงขายหุ้นรายตัวในกลุ่มค้าปลีก (หลังข่าว CPALL* ขายหุ้น MAKRO* ออก 4.80%) ไปพอควรแล้ว ด้านปัจจัยภายนอกเมื่อคืนนี้ หุ้นสหรัฐฯ เทรดในกรอบจำกัด หลังตัวเลขเศรษฐกิจในส่วนของจีดีพีไตรมาส 4/2560 (ปรับครั้งสุดท้าย) +2.9% ดีกว่าที่ consensus คาดที่ +2.6% และไม่มีข่าวลบใหม่ๆ เกี่ยวกับสงครามการค้าออกมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลักๆ เริ่มยืนได้ ส่วนปัจจัยภายในนั้น วานนี้ กนง. มีมติ 6-1 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% และปรับเพิ่มเป้า GDP ไทยปี 2561 จาก 3.9% เป็น 4.1% ด้านนักเศรษฐศาสตร์ KGI ยังคงมุมมอง กนง. จะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ด้านปัจจัยการเมืองอาจกระทบจิตวิทยาการลงทุนเล็กน้อย ล่าสุดทาง สนช. ได้ตัดสินใจยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. แล้ว (จะยื่นศาลในวันที่ 2 เม.ย.) ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่โรดแมปการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปบ้างจาก ก.พ. 2562 ทั้งนี้เมื่อวานศาลฯ ยังได้รับเรื่องที่ สนช. ยื่นขอให้ตีความกฎหมายเลือกตั้ง ส.ว.  ด้วยเช่นกัน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   
เก็งกำไร ECL, SIMAT, COM7*
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) 1) ราคาหุ้นฟื้นตัวหลัง Panic sell จากความกังวลต่อ ผลกระทบมาตรฐานบัญชีใหม่ และการควบคุมการคิดค่าธรรมเนียมของธุรกิจลีสซิ่ง (เราประเมินว่าภาครัฐฯ ไม่ได้ต้องการควบคุมธุรกิจลีสซิ่งแบบดั้งเดิม ที่ค่าธรรมเนียมไม่แพงอยู่แล้ว แบบ ECL) ซึ่งเราอยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการใหม่หลัง Company visit อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเราประเมินผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ ECL ไม่มากขณะที่ราคาหุ้นปรับลงแรง -37% YTD 2) เรายังคงประเมินแนวโน้มกำไร 1Q61 โตเด่น YoY และโตต่อเนื่อง QoQ (ใน 4Q60 มีค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว) 3) วานนี้ กนง มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายต่ำต่อเนื่อง และฝ่ายวิจัยฯ คาด ที่ประชุม กนง มีโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยใน 2H61 แต่ว่า ECL ได้จัดทำเรตติ้งสำหรับการออกหุ้นกู้เพื่อล๊อกต้นทุนดอกเบี้ยไว้รองรับแล้ว 4) ประเมินแนวรับ 2.42 บาท / แนวต้าน 2.68 บาท และ 2.86 บาท ตามลำดับ (Stop loss 2.26 บาท)
  SIMAT (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท ... หลัง XR) 1) เราประเมินผลจากการเข้าซื้อหุ้นกิจการ บ.ฮินซิซึ 70% ทำธุรกิจผลิตแผงวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จะทำให้กำไรสุทธิปี 2561 - 62 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม +65% และ +75% เป็น 39 ล้านบาท และ 87 ล้านบาท ตามลำดับ 2) ประมาณการฯ บ.ฮินซิซึ มี Upside จาก i) การลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปีละ +30 ล้านบาท หลังการควบรวม ii) การเพิ่มยอดขายจาก Synergy กับธุรกิจ Label&Stamping 3) เราประเมินผลของ Dilution effect บน EPS ที่จะเกิดขึ้นเพียง 20% จากการเพิ่มทุนแบบ RO 5:1 ขณะที่ผล Dilution effect จากแจก Warrant และออก Convertible Bond จะยังไม่เกิดขึ้น (Warrant กำหนดให้ใช้สิทธิครั้งเดียวปีที่ 3 / Convertible bond กำหนดให้ใช้สิทธิต่อเมื่อมีการใช้เงินเพื่อซื้อกิจการใหม่) 4) ประเมินแนวรับ 3.08 บาท / แนวต้าน 3.28 บาท (ปิดแก๊บ) - 3.30 บาท (เทรนไลน์) (Stop loss 3.0 บาท) 
  COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) 1) Apple เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ราคาย่อมเยาตามคาด โดยเริ่มที่ iPad ราคาเริ่มต้น 1.08 หมื่นบาท เป็นราคาสำหรับสถานศึกษา ซึ่งตรงกับการลงทุนของ COM7* ในปีที่ผ่านมาที่เริ่มจัดทีมรุกขายผลิตภัณฑ์ไอทีรองรับสถานศึกษา เราประเมินกลางปีนี้มีโอกาสที่ Apple จะเริ่มการเปิดตัว iPhone ราคาประหยัดตามออกมา 2) เรายังคงประเมินแนวโน้มกำไร 1Q61 จะเติบโตเด่น YoY จากสาขาที่เพิ่มขึ้น, การปรับสัญญาร้าน True shop, สินค้าใหม่ๆที่ทยอยเปิดตัวปลายปี - ต้นปี (แต่อาจชะลอ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล) 3) บ. บัฟ (ประเทศไทย) ที่ร่วมถือหุ้นระหว่าง COM7* และ SYNEX คาดจะช่วยต่อยอดการปล่อยสินเชื่อให้กับฐานลูกค้าทั้งของ COM7* และ SYNEX และเตรียมนำเข้า IPO ภายในปี 2563 ... ข้อมูลจาก Opportunity day ของ SYNEX ที่ร่วมถือหุ้น บ.บัฟ 4) ประเมินแนวรับ  18.4 บาท และ 18.0 บาท / แนวต้าน 19.4 บาท และ 20 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 17.9 บาท)

หุ้นในกระแส
  กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประเด็นข่าวลบเรื่องการลดค่าธรรมเนียม วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประเมิน ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ลดลง 10% จะฉุดให้กำไรของ KBANK* ลดลง 2.4%, ของ KTB* ลดลง 1.5%, ของ BBL* ลดลง 1.2%, ของ TMB* ลดลง 1.1%, และของ SCB* ลดลง 0.8% (ภายใต้ข้อสมมติว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคงที่) ฝ่ายวิจัยฯเลือก BBL* เป็นหุ้นเด่นและได้คำนึงถึงผลกระทบนี้ไว้ในประมาณการแล้ว ... สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนอาจพิจารณา ใช้กลยุทธ์ Pair trading เพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน โดยเลือก Long BBL* และ Short KBANK* เพื่อปิดความเสี่ยง (ถ้าหุ้นธนาคารลง เราคาด KBANK* ลงมากกว่า BBL* / ถ้าหุ้นธนาคารรีบาวด์ การทำ Pair trade ก็จะเป็นการปิดความเสี่ยง Beta)

หุ้นมีข่าว
  (0) สมาคมผู้ค้าปลีกต้องการให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันมากขึ้นในการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับสนามบินใหญ่ที่จะเกิดขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ) ประเด็นข่าวดังกล่าวสะท้อนถึงความรู้สึกของสมาคมผู้ค้าปลีกต่อการประมูลสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินขนาดใหญ่ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) ว่าไม่เป็นธรรมใสนเชิงการแข่งขัน แต่เราไม่เห็นด้วยเนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายสามารถเข้าร่วมประมูลได้ทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเสนอการจ่ายผลตอบแทนให้กับภาครัฐเหนือกว่าผู้ชนะการประมูล อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงการคลังจะยอมรับผลตอบแทนที่ต่ำลงได้หรือไม่ เรายังแนะนำซื้อ AOT โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 82.12 บาท
  (-) หุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงหนัก รับสงครามยกเลิกค่าฟี (ข่าวหุ้น) แบงก์ร่วงหนัก หลังบิ๊กโฟร์ กสิกร ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ และกรุงไทยเปิดศึกยกเลิกค่าธรรมเนียม ผู้บริหาร KBANK* ยอมรับกระทบรายได้หนัก เริ่มเห็นชัด Q2 ขณะที่กรุงศรีฯประชุมด่วนรับมือสถานการณ์ โบรกฯมองปีนี้แบงก์รายได้หาย 3-5% ส่วน BBL* กระทบไม่มาก ฐานรีเทลน้อย
  (+) CPALL* ตัดหุ้น MAKRO ขายกำเงินสด 1 หมื่นล้าน (โพสต์ทูเดย์) ซีพีออลล์ขายบิ๊กล็อตหุ้นสยามแม็คโคร 230 ล้านหุ้น กำเงินสดหมื่นล้านนำเงินคืนหนี้-ลุยธุรกิจต่อ นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำรายงานขายหุ้น ในกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2561 ในหุ้นของบริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) ให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจำนวน 230.24 ล้านหุ้น หรือ 4.80% ที่ราคาหุ้นละ 44 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.01 หมื่นล้านบาท
  (+) สินเชื่อบ้านพุ่งขึ้น 6% ผลจากรัฐลงทุนกว่า 1.1 ล้านล้าน ออกกฎหมายหนุนอสังหาฯโต (โพสต์ทูเดย์) เอกชนชี้การลงทุนภาครัฐดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว หนุนอสังหาฯ และสินเชื่อโตเพิ่มราว 6% นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ในปีนี้แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยบ้านไม่น่าจะมีหรือขึ้นไม่มาก ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีการขยายตัวเพิ่ม 6% หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 2 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วมีการขยายตัว 5.5-6% หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท
  (+) สื่อโฆษณาฟื้นตัว MAJOR* ลุยอำเภอ (โพสต์ทูเดย์) เมเจอร์เร่งขยาย 100 โรงหนังในต่างจังหวัดระดับอำเภอเพิ่มรายได้ มองภาพรวมสื่อโฆษณาโต 6-7% หลังสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น นายนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในปีนี้คาดการณ์ว่าจะกลับมาเติบโตที่ 6-7% เทียบเท่าปี 2559 ที่ผ่านมา จากสัญญาณเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มที่ดี
  (+) TOA เร่งขยายผลตั้งโรงงานใหม่ดันรายได้ต่างแดน (ทันหุ้น) TOA มั่นใจโรงงานใหม่ 3 แห่ง ในอินโดนีเซีย เมียนมาและกัมพูชา ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผน ดันกำลังผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 102 ล้านแกลลอนต่อปี ตั้งเป้ายอดขายปี 2561 เติบโต 10% พร้อมขยับสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 15-16%

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 85 บาท) ประเมินแนวรับ 62.5 บาท แนวต้าน 66 บาท (Stop loss 62.5 บาท) 
  INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 70.5 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 57.5 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ Stop loss หากยืนได้ แนะนำ "ถือ"
  SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 30.5 บาท และถัดไปที่ 32.75 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 27 บาท) 
  GPI (เป้า Consensus 4.53 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 3.28 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ Stop loss หากยืนได้ แนะนำ "ถือ"
  WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.6 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 3.80 บาท หากต่ำกว่าแนะนำ Stop loss / หากยืนได้ แนะนำ "ถือ"
  TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 39.5 บาท หากผ่านได้ แนะนำ "Let profit run" / หากไม่ผ่านอาจพิจารณาขายล๊อกกำไร

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  GUNKUL* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯปี 2561-62 ลง -35.9% และ -8.2% ตามลำดับ อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการกำไรปี 2561 โต +80.6% YoY เด่นสุดในกลุ่มฯ

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   นัยรับ 1784 จุด
   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1784 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1784-1799 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยแนวรับ 1784 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1784-1763 จุด
  แนวรับวันนี้:          1784/1764                แนวต้านวันนี้:          1792/1799

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 มี.ค. 2561 เวลา : 09:54:57

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:08 pm