|
|
|
|
|
|
Market Summary 28/03/2018
Close
|
1,784.99
|
Volume
|
Bt72,666M
|
Change
|
-17.59
|
P/E
|
18.38
|
%Change
|
-0.98%
|
P/BV
|
2.08
|
หุ้นแนะนำพิเศษ
CPN (ราคาปิด 78.50 Bloomberg Consensus 88.75)
- ปี 61 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% มีปัจจัยขับเคลื่อนจากสาขาใหม่ที่เปิดในปี 60 (นครราชสีมาและมหาชัย) สาขาใหม่ที่เปิดในปี 61(ภูเก็ต2 สาขาใหม่ 1 แห่งและ I-City สาขาในตปท.สาขาแรกที่มาเลเซีย) รวมทั้งรายได้จากการโอนคอนโดฯ 3 แห่ง (ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น)มูลค่ารวม 2.8 พันลบ.มียอดจอง 100% ซึ่งจะเริ่มโอนในเดือนเม.ย. และอัตราเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นหลังปรับปรุงพื้นที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์แล้วเสร็จ ฐานรายได้ที่สูงขึ้นจะช่วยชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่มีแนวโน้มลดลงจากการมีโครงการเพื่อขายที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าโครงการเพื่อเช่ามาผสม
- Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 1.24 หมื่นลบ. +26% จากกำไรปกติ ในปี 60 9,893 ลบ. ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษในการได้รับสินไหมทดแทน 3.5 พันล้านบาทและรายได้สุทธิจจากการแปลง CPNRF เป็น CPNREIT และการให้เช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช (บางส่วน) และโรงแรมฮิลตัน พัทยาจำนวน 175 ล้านบาท เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแผนงานในอนาคตที่หนุนศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงาน สำหรับกำไร 1Q61 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง QoQ และ YoY (1Q60 มีกำไร 2.8 พันลบ. 4Q60 มีกำไร 2.3 พันลบ.)
Market View : Selective Buy
หุ้นแนะนำพิเศษ : CPN
หุ้นมีข่าว : TVI GPI VCOM
Technical Insight : CWT BWG
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ Sideway ช่วงเช้าก่อนอ่อนตัวต่อเนื่องหลังจากมีปัจจัยเฉพาะตัวรายกลุ่มจาก 1) COM มี Big lot ใน MAKRO ที่ราคาต่ำกว่าตลาด 2) BANK หลังจากมีการประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียม สร้างความกังวล No-Interest Income และ 3) ENERG ตามราคาน้ำมันอ่อนตัว โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,784.99 จุด (-17.59 จุด) Volume 7.26 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +967.47 ลบ. TFEX Net -7,306 สัญญา ตราสารหนี้ -3,616.94 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+GDP สหรัฐประจำไตรมาส 4 ปี 2560 ที่ระดับ 2.9% สูงกว่าประมาณการครั้งที่ 2 ที่ 2.5% และประมาณการครั้งที่ 1 ที่ 2.6%
+ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายสหรัฐปรับตัวขึ้น 3.1% สู่ระดับ 107.5 ในเดือนก.พ.
+กนง.มีมติ 6:1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 61 เป็น 4.1% จากเดิม 3.9% ปี 62 คาด GDP 4.1%
-ดาวโจนส์ปิดขยับลงเนื่องจากการการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แม้ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4/2560
-น้ำมันดิบปิดลบหลังจาก EIA เผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาด
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.62 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.27 บาท/USD
**28 มี.ค. กำหนดประชุมกนง. คาดจะมีมติคงอัตราดบ.ที่ระดับเดิม 1.5%
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบ และราคาน้ำมันที่ลดลงหลังกังวลสต๊อกน้ำมันดิบปรับเพิ่ม รวมทั้ง Fund Flow ผันผวน โดยมีปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP สหรัฐใน 4Q60 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้ายขยายตัวดีและสูงกว่าประมาณการครั้งก่อน และที่ประชุมกนง.วานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม คาด SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,775-1,792 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- KCE HANA DELTA เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.27 บาท/$ และราคาทองแดงปรับตัวลง 5%MTD สู่ 6,550 $/Ton
- GPI KKP TISCO TCAP หุ้นได้ประโยชน์จากงานมอเตอร์โชว์
- CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing
- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT
หุ้นมีข่าว
- TVI (ราคาปิด 3.40 บาท) Company Visit : เป็นบริษัทประกันภัยแบบ Non-life มีรายได้เบี้ยสุทธิหลักมาจากประกันภัยรถสัดส่วน 80% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 3% รองลงมาเป็นประกันภัยเบ็ดเตล็ดราว 15% จากการประกันข้าวนาปีเป็นหลักโดยร่วมมือกับภาครัฐ ปัจจุบันมี Port ลงทุนขนาด 2.7 พันล้านบาท สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (เงินปันผล, Capital Gain, Mark to market, และอื่นๆ) รวมราวปีละ 3%
- ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา TVI เผชิญกับ Cost to Income ratio จากส่วนธุรกิจประกันภัยที่ต่ำกว่า 1 (เกิดผลขาดทุนจากการดำเนินงานเฉพาะธุรกิจประกัน) จากภาวะการแข่งขัน เป็นผลให้บริษัทมีการลงทุนทีมวิจัยทางด้าน IT เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบใหม่ๆที่ สร้าง Value add โดยผลงานชิ้นแรกคือ "Tbeacon" หรือประกันภัยรถยนต์ที่สามารถเลือกเปิดปิดช่วงเวลาการคุ้มครองได้ นับจากนี้ แผนของบริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ประกันอย่างต่อเนื่อง คาดมีการเปิดตัว 1 - 2 แบบ ในปีนี้ โดยยังคาดจะมาช่วยเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายโดยตรงสู่ End User ให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่บริษัทยังพึ่งพา Broker อยู่ถึง 60%
- ความเห็น การลงทุนช่วงแรกซึ่งเริ่มเมื่อราว 1 - 2 ปี ก่อนหน้า เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สร้างผลขาดทุนให้แก่บริษัท ขณะที่ปัจจุบัน ยังคงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของผู้ซื้อประกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจสร้างผลบวกต่อบริษัทที่มี Platform อยู่ในมือแล้วในบางส่วน อย่างไรก็ตามในระยะสั้นบริษัทยังอยู่ใน Phase ของการลงทุนทั้งค่าบุคลากรและโฆษณา จึงอาจคาดหวังการมี Cost to Income ration ที่ Break-even ซึ่งอาจสะท้อนในราคาหุ้นแล้วที่มีการซื้อขายที่ PBV อยู่เพียง 0.88 เท่า โดยรวมแนะนำให้ Wait & See
- GPI (ราคาปิด 3.28 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) ผู้บริหารเผย 1Q61 เติบโต YoY จากการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่บูธแสดงยานยนต์ในงานมอเตอร์โชว์เฉลี่ย 7% การขยายงานเข้าไปจัดงานอีเว้นท์ในกลุ่มประเทศ CLMV ปัจจุบันอยู่ระหว่างตั้งบริษัทย่อยในประเทศเมียนมา คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ โดยงานแรกเป็นงานมอเตอร์โชว์ คาดจะจัดขึ้นช่วง ก.ค. 61 หนุนรายได้ 3Q61 นอกจากนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ อาทิ วิทยุรถยนต์ และการทำ Big Data คาดเห็นความชัดเจนภายใน 3Q61 เช่นกัน โดยรวมคงเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 10 - 15% (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
- ความเห็น การปรับเพิ่มค่าเช่าของบริษัท ฝ่ายวิจัยได้มีการรวมในประมาณการแล้ว ซึ่งเชื่อว่าต้นทุนส่วนใหญ่ยังไม่น่ามีการปรับเพิ่มขึ้นตาม หนุนให้ยังคาดกำไรปีนี้โตได้ 12.7%YoY ขณะที่การขยายตลาดไป CLMV และแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เป็น Upside Potential ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มในราคาเหมาะสมของฝ่ายวิจัยที่ 4.20 บาท ส่วนราคาปัจจุบัน ซื้อขาย Net Cash Adjusted PER ที่ราว 8.5 เท่า จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
- VCOM (ราคาปิด 3.74 ราคาเหมาะสม 4.20) จ่อคว้างานใหญ่ร่วมกับพาร์ทเนอร์โดยใช้โซลูชั่นของ ORACLE เข้าร่วมประมูลในโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อดำเนินการด้านระบบเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลของภาครัฐฯขนาดใหญ่มูลค่า 300 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ที่ระดับ 20-25% จากปีก่อนที่ 10% โดยเมื่อต้นปี 61 ที่พม่า บริษัทได้งานที่Myawaddy Bank, CB Bank และ AYA Bank ตามลำดับ และคาดว่าจะมีทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนกัมพูชาอยู่ในระยะของการประมูลโครงการขนาดใหญ่ โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี61ที่ 1,900 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 25-30 % (ที่มา Press Release)
- ความเห็น คาดว่าบริษัทจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการเร่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีของทั้งภาครัฐ และบริษัทเอกชนได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศ ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 61 เติบโตราว 11%YoY คาดจะเติบโตสู่ 64.9 ล้านบาทในปี 61 ได้ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 4.20 บาท มีอัพไซต์ราว 12% จากราคาปัจจุบัน และปันผล 0.065 บาทให้อัตราผลตอบแทน 1.74% ในเชิงกลยุทธ์จึงปรับคำแนะนำในบทวิเคราะห์จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
- CPALL เฉือนขายบิ๊กล็อต MAKRO รวม 230.24 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.80% ในราคาต่ำกระดานหุ้นละ 44 บาท มูลค่ารวม 10,130 ล้านบาท หวังเพิ่มสภาพคล่องหุ้น ลดสัดส่วนถือหุ้นเหลือ 93.08% ฟันกำไรขายกว่า 1 พันล้านบาท เหตุมีต้นทุนแค่ 39.35 บาท/หุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)
- วิพากษ์แบงก์ใหญ่ "SCB-KBANK-KTB" แห่เปิดศึกฟรีค่าธรรมเนียมออนไลน์กระทบกำไรเล็กน้อย ประเมินอยู่ในระดับ 1.5-1.6 พันล้านบาทเท่านั้น เทียบกำไรระดับ 3-4 หมื่นล้านบาท เชื่อระยะยาวส่งผลดี ด้านบิ๊ก SCB ชี้คุ้มค่ายอมเสียน้อยแต่ได้ฐานลูกค้ามากเพื่อต่อยอด ย้ำฟรีค่าธรรมเนียมเฉพาะออนไลน์เท่านั้นแต่ค่าธรรมเนียมอื่นยังอยู่ (ที่มา ทันหุ้น)
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
29 มี.ค. 2561 เวลา : 10:17:02
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น