คำแนะนำ

  หากราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 1,313-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดทองคำต่างประเทศหลายประเทศปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday และ เทศกาลอีสเตอร์ ราคาจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,313  1,306  1,298
แนวต้าน  1,333  1,346  1,356

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่เริ่มบรรเทาเบาบางลงบ้างหลังสหรัฐเปิดเผยว่าอาจจะยังไม่ใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจนกว่าจะถึงช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้  ด้านความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลงเช่นกัน  นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์หลังการเปิดเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 215,000 รายแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 45 ปี  ส่วนดัชนีCore PCE, รายได้และการบริโภคส่วนบุคคลขยายตัวสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์  ประกอบกับสกุลยูโรอ่อนค่าลงหลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำเพิ่มเติม  อย่างไรก็ดีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก  อีกทั้งประเด็นความขัดแย้งทางการค้าที่ยังไม่หมดสิ้นไปยังคงช่วยพยุงราคาทองคำไว้  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางกว่าปกติเนื่องจากตลาดเงิน, ตลาดทุนและตลาดทองคำของหลายประเทศรวมถึงสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

ปัจจัยทางเทคนิค
  ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 1,313-1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่งก็จะเริ่มเห็นแนวโน้มที่ชัดเจน ประกอบกับวันนี้ ตลาดทองคำต่างประเทศหลายประเทศปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday และ เทศกาลอีสเตอร์ ราคาจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ โดยรอจังหวะเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายหากราคาลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเปิดสถานะซื้อแนะนำให้ชะลอออกไปหากราคาหลุดแนวรับ