คาดดัชนีทยอยฟื้นตัว หลังราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยกังวลระยะสั้นส่วนใหญ่แล้ว
  จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 128 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญฯไม่ใช่สงครามการค้า แต่เป็นเพียงการตอบโต้รักษาหน้าตา เนื่องจากคิดเป็นเพียง 0.43% ของการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่มาตรการจัดเก็บภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียมของสหรัฐฯ คิดเป็นเพียง 1% ของมูลค่าการนำเข้าจากจีน การดำเนินการของสหรัฐฯ จึงเป็นเพียงการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งกลางปี กับฐานเสียงในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กมากกว่าสงครามการค้าจริง
  หลังตอบรับปัจจัยลบทั้งความเสี่ยงเลื่อนวันเลือกตั้ง และผลการการลดค่าธรรมเนียมโอนเงินของกลุ่มธนาคาร  อีกทั้งการปรับสูตรคำนวณที่อาจกระทบผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มโรงกลั่น (5 เม.ย.) ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1770-1800 จุด 
  โดยคาดนักงทุนกลับมาโฟกัสผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 โดยเฉพาะของกลุ่มธนาคารที่เริ่มประกาศ 17 เม.ย. ซึ่งเราประเมินฟื้นตัวและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จะช่วยให้บรรยากาศรวมของตลาดเป็นบวกมากขึ้น
  Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC 
  ภาพรวมกลยุทธ์: ฟื้นตัวในกรอบ 1770-1800 จุด การลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร  แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง  // หุ้นแนะนำวันนี้ BBL, IVL, BH / เก็งกำไร AGE (ตัดขาดทุน 1.37)
แนวรับ 1750-1760 / แนวต้าน : 1790 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
  

ประเด็นการลงทุน
  กลุ่มธนาคาร – เราคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 ที่จะเริ่มรายงานตั้งแต่ 17 เม.ย.นี้ กำไรสุทธิจะละลอตัวลง 5% YoY จากการตั้งสำรองที่สูงกว่า แต่ยังคงเป็นทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้น 20% QoQ จากการตั้งสำรองที่คาดว่าจะเริ่มลดระดับลงหลังสูงสุดในไตรมาส 4/60 เราประเมินราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความกังวลการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นจากมาตรฐาน IFRS9 รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมโอนเงินไปแล้ว หุ้นที่เราชอบคือ BBL, KBANK และ KTB
  ธปท.มองบวกต่อการบริโภคครึ่งหลัง – เศรษฐกิจ ก.พ.ดีจากส่งออกและท่องเที่ยว ขณะที่อุปสงค์ในประเทศเติบโต แต่ยังไม่ได้เป็นแรงส่งหลัก เท่าอุปสงค์ด้านต่างประเทศ โดยมองการบริโภคมีโอกาสเติบโตมากกว่าที่คาดจากเม็ดเงินงบประมาณกลางปี 1.5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบตั้งแต่ไตรมาส 2/61 งบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งงบช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
สศอ.ปรับการคาดการณ์ เอ็มพีไอโต 3% – สศอ.ปรับคาดการณ์ MPI ปี 61 อย่าง ไม่เป็นทางการอยู่ที่ 2.5-3% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1.5-2.5% เนื่องจากประเมินแนวโน้ม MPI มีสัญญาณบวกต่อเนื่อง ขณะที่ MPI เดือน ก.พ.61 มีอัตราการขยายตัว 4.66%yoy ผลจากอุตสาหกรรม
รถยนต์ขยายตัว 14.52% จากรถยนต์นั่งและรถปิกอัพเป็นหลัก
  หุ้นโรงกลั่นร่วงหลัง กบง.รื้อสูตรค่าการกลั่นใหม่ – ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลงแรงหลัง กบง. มีแผนปรับสูตรการคำนวณค่าการกลั่นใหม่ จากเดิมที่อิงตลาดสิงคโปร์และบวกค่าพรีเมียม เปลี่ยนมาเป็นยกเลิกค่าพรีเมียมและหันมาใช้สูตรราคาใหม่ที่อิงกับราคาตลาดโลกอย่างเดียว โดยคาดมีความชัดเจนมากขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.นี้
  ประเด็นติดตาม: 02 เม.ย. TH – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค., 04 เม.ย. EU – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค., 06 เม.ย. US – ตัวเลขการจ้างงาน เดือน มี.ค. 


(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)