เลือกเก็งกำไรรายตัว ระหว่างรอรายงานกำไรบจ.ปรับดีขึ้น ซึ่งคาดว่านำโดยธนาคาร
นักลงทุนบางส่วนลดน้ำหนักตราสารทุนและเข้าพักเงินในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ พันธบัตร หลังความวิตกสงครามการค้าเข้ากระทบ sentiment การลงทุนในภาพรวม ส่งผลให้ตลาดดาวน์โจนส์สหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 450 จุดเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดผลดังกล่าวกระทบจำกัดต่อภาคเศรษฐกิจจริงหลังสินค้าที่ทั้งตู่ตั้งเป้าเก็บภาษีคิดเป็นเพียง 1-2% ของปริมาณการค้าระหว่างกันเท่านั้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลงราว 3% หลังกำลังการผลิตในรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับหุ้นไทย ระยะสั้นแม้กลุ่มพลังงานมีโอกาสปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มการแพทย์ รวมทั้งท่องเที่ยว ที่เข้าสู่ High season รวมถึงสายการบินที่จะได้อานิสงค์จากราคาพลังงานที่ลดลง จะมีโอกาสถูกผลักดันขึ้นมาเก็งกำไรสลับ ระหว่างรอตลาดกลับมามั่นใจกับผลการดำเนินงานของบจ.อีกครั้ง หลังการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 (เริ่มประกาศ 17 เม.ย.นี้) โดยภาพรวมเรามีมุมมองตลาดจะมีบรรยากาศการซื้อขายที่ดีขึ้นหลังสงกรานต์ จากทิศทางกำไรบจ.รวมที่ยังเดินหน้าปรับขึ้น
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวในกรอบ 1770-1800 จุด กลุ่มท่องเที่ยว (โรงแรม สายการบิน)การลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ ERW, BBL, BH / เก็งกำไร THAI (ตัดขาดทุน 15.50)
แนวรับ 1775 / แนวต้าน : 1790 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงหลังพบกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นในรัสเซีย // ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,055 จุด (-2.31%) // ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 92.25 เหรียญฯต่อตัน (-4.30%)
ตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน มี.ค. – กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. อยู่ที่ 101.12 ขยายตัว 0.79%yoy ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการการเพิ่มขึ้นของปัจจัยด้านการบริโภคและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในหมวดที่มิใช่อาหารสด
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจสูงสุดในรอบ 5 ปี – ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นสู่ 53.3 จากเดือนก่อนที่ 51.4 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกองค์ประกอบและสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.56 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี จากอุปสงค์ทั้งใน-นอกประเทศที่ขยายตัวดี
กบง.เลื่อนพิจารณาปรับสูตรค่าการกลั่น – กบง.เลื่อนการประชุมพิจารณาปรับสูตรราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นและค่าการตลาด จากเดิม 5 เม.ย. เป็นวันที่ 20 เม.ย.นี้
ประเด็นติดตาม: 4 เม.ย. EU – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค., 6 เม.ย. US – ตัวเลขการจ้างงาน เดือน มี.ค., 11 เม.ย. TH – ธปท.รายงานนโยบายการเงิน
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ข่าวเด่น