คำแนะนำ
ราคายังไม่ผ่านโซน 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์)เพื่อไปรอพิจารณาแนวรับถัดไป โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะหลายวัน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,330 1,321 1,313
แนวต้าน 1,346 1,356 1,367
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 9.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากอ่อนค่าลงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 389.17 จุดนำโดยการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลงและก่อให้เกิดแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำ อย่างไรก็ดีความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนและพยุงราคาทองคำไว้ หลังจากล่าสุดสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า จำนวน 1,300 รายการและคิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม สินค้าด้านการขนส่ง และสินค้าทางการแพทย์ในอัตรา 25% สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคบริการจากมาร์กิตและ ISM, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค. จาก ADP เพื่อใช้คาดคะเนความแข็งแกร่งของตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐที่กำลังจะถูกเปิดเผยในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่บริเวณ 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนแนวรับ ต้องจับตาแรงซื้อเก็งกำไรที่อาจเพิ่มสูงขึ้น โดยหากสามารถยืนได้ราคาอาจดีดตัวขึ้นทดสอบโซน แนวต้านที่ 1,346-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาไม่หลุด 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา อาจรอเปิดสถานะซื้อในโซนดังกล่าว เพื่อหวังขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,346-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนควรเป็นในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น และไม่ควรถือสถานะหลายวัน
ข่าวเด่น