ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ยังมีความผันผวนค่อนข้างมากจากประเด็นสงครามการค้า (04/04/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Stay on Defensive and Domestic Play

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET อ่อนตัวลงตามคาดจาก Sentiment เชิงลบทั้งราคาน้ำมันดิบที่ร่วง ความกังวลเรื่องสงครามการค้า รวมถึงสนช.ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายที่มาสส.แล้ว ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลงแรงสุดจากประเด็นภาครัฐชะลอการรับซื้อไฟฟ้า แรงขายมาจากฝั่งสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.1 พันลบ. และ 500 ลบ. ตามลำดับ
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways และยังมีความผันผวนค่อนข้างมากจากประเด็นสงครามการค้าที่กระทบ Sentiment ตลาด หลังล่าสุดสหรัฐฯเปิดเผยรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีน 1,300 รายการที่จะเก็บภาษีและจีนเตรียมจะตอบโตในเร็วๆนี้ แม้เราคิดว่าสงครามการค้าจะไม่เกินขึ้นจริง แต่คาดตลาดจะถูกกระทบจากข่าวหรือประเด็นดังกล่าวตลอดทั้งเดือน เราจึงยังคงกลยุทธ์การลงทุนให้เน้นในกลุ่ม Defensive และ Domestic Play ที่ไม่ได้ประเด็นกดดันเฉพาะกลุ่ม น่าจะปลอดภัยและปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด 
  กลยุทธ์ : ยังเน้นลงทุนในกลุ่ม Defensive และ Domestic Play 
  หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$394ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$309ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$15ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเนื่องจากความกังวลต่อการค้าระหว่างภูมิภาค แต่การไหลออกอาจชะลอลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นแรง 

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> INTUCH <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท
  • คาดกำไร 1Q18 แข็งแกร่งที่ 3.9 พันลบ. +115% Q-Q, +22% Y-Y ตาม ADVANC รวมถึง THCOM ที่มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย CSL
  • ราคาหุ้นปัจจุบัน Undervalue อย่างมาก โดย Discount สูงถึง 28% แม้พิจารณาเฉพาะมูลค่าของ ADVANC ซึ่งหมายถึงได้ธุรกิจอื่นทั้ง THCOM และ Startup ฟรี ขณะที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นเพียง 2.2% Laggard ADVANC ที่ +8.4% ทำให้  Upside เปิดกว้างและดูน่าสนใจกว่า และเหมาะที่จะเป็นหุ้นหลบภัยช่วงตลาดผันผวน


ประเด็นสำคัญวันนี้
  (-) กลุ่มโรงไฟฟ้า ราคาหุ้นที่ปรับลงระยะนี้ ไม่มีข่าวลบเฉพาะตัว แต่เป็นประเด็นทั้งอุตสาหกรรม ที่รมว.พลังงานเห็นควรชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนไปก่อน ถ้าไม่มี Capacity ใหม่ หุ้นเหล่านี้จะไม่มี growth จึงไม่ควรซื้อขายบน PE สูง แต่บางตัวก็ลงต่ำกว่าพื้นฐานเกินไป เพราะโรงไฟฟ้าปัจจุบันยังดำเนินการปกติ เช่น BGRIM (TP 32), EA (TP 47), GUNKUL (TP 5), TPCH (TP 18) เป็นต้น
  (+) TMB ปรับคำแนะนำขึ้นจากถือเป็นซื้อ ราคาเหมาะสม 3.30 บาท ราคาหุ้นปรับฐานจนมี Upside ที่น่าสนใจ เนื่องจากความกังวลต่อ CoF และฐานเงินฝากที่อาจได้รับผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนของธนาคารอื่น แต่เราคาดว่า TMB ผู้ซึ่งเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ไม่เคยเรียกเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมมาก่อน และมี Platform ที่แข็งแกร่งตอบโจทย์เหตุผลการฝากเงินของลูกค้า จะได้รับผลกระทบน้อยมาก ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นจาก Bancassurance และ Loan-related fee ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 1 หมื่นลบ. +16% Y-Y และคาดการณ์กำไร 1Q18 น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ราว 2.26 พันลบ. ทรงตัว Q-Q แต่ +8%Y-Y (ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม)
  (+) HMPRO แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q18 จะเติบโตได้ดี 25% Y-Y อยู่ที่ 1.3 พันลบ. จาก SSSG ที่คาดโตเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน กอปรกับยังได้รับการตอบรับที่ดีจากการจัดงาน Expo จึงคาดรายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นยังดูมีพัฒนาการที่ดีจากทั้งการปรับ Product Mix และการ Sourcing ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภาพรวมกำลังซื้อในมุมมองของ HMPRO ยังดูค่อนไปในทางทรงตัว สำหรับสาขาในต่างจังหวัด ขณะที่สาขาในกทม.และปริมณฑลยังฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง แนวโน้มผลประกอบการจะดีมากขึ้นใน 2Q18 และ 4Q18 ซึ่งเป็นช่วง High Season เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 เติบโต 20% Y-Y อยู่ที่ 5.9 พันลบ. คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 15.5 บาท
  (+) AP แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท จากพอร์ตที่ยืดหยุ่นในการกระจายรายได้ทั้งแนวราบและคอนโดในทุกเซกเมนต์ ประกอบกับคาดกำไรปกติปีนี้โตดีต่อเนื่อง +10% Y-Y อยู่ที่ 3.4 พันลบ. จากการเริ่มโอนคอนโด 2 แห่ง มูลค่ารวม 8.7 พันลบ. และยอดโอนแนวราบที่คาดทำได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นลบ. อีกทั้งยังมีโครงการ JV ที่คาดให้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น +35% Y-Y แม้บริษัทจะให้เป้า Presales อย่างอนุรักษ์นิยมที่ 3.35 หมื่นลบ. (-22% Y-Y) แต่มีสัญญาณบวกจากยอดขายใน 1Q18 ที่โตแรง +168% Y-Y แตะระดับ 1 หมื่นลบ. คิดเป็น 30% ของเป้าทั้งปีแล้ว PE2018 เพียง 7.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และกลุ่มอสังหาฯที่ 9 เท่า  
  (+) VGI แจ้งลงทุน 25.1% สื่อโฆษณาสนามบินในมาเลเซีย เป็นบวกด้าน Synergy การขายโฆษณา แต่ ส่งผลบวกต่อกำไรรวมไม่มากอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมามาก น่าจะสะท้อนข่าวและแนวโน้มกำไร 4Q18 (ม.ค.-มี.ค.18) โตสูง 30-35% Q-Q แม้เรามีแนวโน้มปรับประมาณการและราคาเป้าหมายปี 2019 ขึ้นจากเดิมที่ 6.30 บาท แต่ราคาปัจจุบันที่ PE 53 เท่า เรามองว่า Fully value แล้ว แนะนำทยอยขายทำกำไร 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

เม.ย.

สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (มี.ค.)

ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)

5 เม.ย.

ไทย: ประชุม กบง., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)

ยูโรโซน: ยอดค้าปลีก (ก.พ.)

6 เม.ย.

สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (มี.ค.)

  • (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและของหุ้นเทสล่า หลังยอดขายรถโมเดล 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐ
  • (-) ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบหลังจากประเด็นความกังวลในสหรัฐช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังมีข่าวการประท้วงของเจ้าหน้าที่การรถไฟฝรั่งเศสที่ไม่พอใจการทำงานของประธานธิบดีมาครอง
  • (0) ตลอดเอเชียเปิดผสมผสาน หลังสหรัฐได้มีการเปิดเผยรายการสินค้าจากจีนที่จะถูกขึ้นภาษี เช่นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยารักษาโรค
  • ()  ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐยังคงอยู่ในกรอบความเคลื่อนไหวที่ 31.15-31.25 บาท/ดอลลาร์
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 63.51 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการเข้าซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน
  • ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวลง 9.6 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,337.3 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและตลาดหุ้นสหรัฐที่ฟื้นตัวเมื่อคืนนี้

บันทึกโดย : วันที่ : 04 เม.ย. 2561 เวลา : 09:30:09

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:37 am