คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรในกรอบ 1,356-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในโซน 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,330 1,321 1,313
แนวต้าน 1,346 1,356 1,367
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากในระหว่างวันราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนโดยดีดตัวขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,348.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน หลังจากเมื่อช่วงบ่ายวานนี้จีนได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการรวมถึงถั่วเหลือง รถยนต์ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเคมีภัณฑ์ในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้สหรัฐซึ่งเพิ่มความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศและส่งผลกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกันก็กดดันดัชนีดาวโจนส์ให้ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรก ก่อนที่ดาวโจนส์และดอลลาร์จะฟื้นตัวในเวลาต่อมาหลังนายแลร์รี่ คุดโลว์ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ต้องการที่จะเจรจากับจีนมากกว่าที่จะประกาศสงครามการค้าส่งผลให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลงในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -0.28 ตัน สำหรับวันนี้ตลาดจีนจะปิดทำการเนื่องในเทศกาลเชงเม้ง(Tomb Sweeping Day)แนะนำติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดุลการค้าของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวในระดับสูง หากราคาสามารถสร้างฐานเหนือแนวรับ 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แข็งแกร่ง เบื้องต้นหากสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ประเมินว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,356ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,346-1,356 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,330-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น