สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +14.94 จุด รีบาวด์ตามหุ้นโลก เก็งสหรัฐฯ-จีนเร่งเจรจา

  SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1724-40 ตามหุ้นสหรัฐฯ ที่ดีดกลับ เก็งสหรัฐฯ และจีนเร่งเจรจาการค้า ประกอบกับเครื่องชี้ทางเทคนิคเริ่มบ่งชี้ภาวะขายมากเกินไป แต่หุ้นธนาคารยังถ่วงตลาด ถูกปรับประมาณการกำไรและเป้าพื้นฐานลง ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.23 พันลบ. แต่พลิก Long S50 Futures 21,814 สัญญา ยุติ Short 2 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ผันผวนในกรอบ 1730-50 รอพัฒนาการเจรจาการค้า 
  หุ้นโลกเมื่อวันศุกร์ (6 เม.ย.) พลิกกลับมาร่วงลงอีกครั้ง โดยดัชนี DJ ปรับตัวลงมากกว่า 570 จุด ผิดหวังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่แย่กว่าคาด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 103,000 ตำแหน่ง vs ตลาดคาด 193,000 ตำแหน่ง และปธน.ทรัมป์เปิดศึกการค้ากับจีนระลอกใหม่ โดยสั่งให้ทีมงานหาทางขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ฯ  ด้านราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลง 1.48$ หรือ -2.3% มาปิดที่ 62.06$/bbl ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนและสรัฐฯ และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 11 แท่น เป็น 808 แท่น สูงสุดตั้งแต่ มี.ค. 2015  มอง SET มีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1730-50 สงครามการค้ายังเป็นปัจจัยกดดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวมอยู่-รอติดตามดูพัฒนาการใกล้ชิด และปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ในสัปดาห์นี้ อาทิ รายงานประชุม FED ครั้งก่อน ตัวเลขการค้าจีน และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมทั้งการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ขณะที่หุ้นใหญ่หลายตัวจะขึ้น XD ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ INTUCH, BANPU, BPP, MINT, SCCC, KBANK จะมีผลกระทบต่อ SET -3.5 จุด แนวรับ 1735, 1730 แนวต้าน 1745, 1750

กลยุทธ์การลงทุน : Wait&See ถือเงินสด > ถือหุ้น, เด้งเป็นจังหวะขายลดพอร์ต
  เรามีมุมมองตลาดไตรมาส 2 เป็นแนวโน้มแกว่งซิกแซกลง ยังแนะอยู่ในโหมด Wait & See ถือเงินสดมากกว่าถือหุ้น รอเริ่มทยอยสะสมแบบไม่รีบร้อนที่ระดับ 1720 ลงมา / มองการรีบาวด์เป็นจังหวะขายลดพอร์ต แต่หากภาวะตลาดดีกว่าคาดมาก แนะเข้าซื้อตามเมื่อ SET ปิดเหนือ 1760

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick ROBINS – Consensus คาดกำไรปีนี้และปีหน้าจะเติบโตเฉลี่ย 13-14% ต่อปี จากศก.ในปท.ที่ฟื้นตัวและโอกาสเกิดการเลือกตั้งในต้นปีหน้า บริษัทวางแผนขยายสาขา 2-3 แห่ง/ปี, มองราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 20% ในปีนี้เริ่มน่าสนใจ ประกอบกับทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว, Consensus ให้เป้าพื้นฐาน 76 บ. / WHA เราปรับเป้าพื้นฐานขึ้นเป็น 4.14 บ. จากมูลค่าของบริษัทลูก WHAUP ที่เพิ่มขึ้น และปรับการประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF เป็น 1H19 ยังแนะนำ “ซื้อ” รับประโยชน์ EEC / มองหุ้นในกลุ่มรพ.ปลอดภัยจากภาวะตลาดผันผวน ชอบ BCH, BDMS, CHG / CPF คาดจะได้ประโยชน์จากจีนตั้งกำแพงภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ / ส่งออกไทย ก.พ. ขยายตัวดีกว่าคาด ชอบหุ้นอิงธุรกิจยานยนต์ AH, SAT, NYT / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรและเป้าราคาหุ้นขึ้น – AH, AJ, SAT, SEAFCO, TOA, TVO / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – AEONTS (งบปีสิ้นสุด ก.พ.), BLAND (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) / หุ้นได้ประโยชน์ EEC ชอบ CK, STEC, SEAFCO, AMATA, ROJNA, WHA / Summer Play – SNC, SAPPE, TACC / หุ้นปันผลดี (Div. Yield รอบนี้ > 3%) ชอบ  AIT, AP, ASEFA, BIG, ESTAR, FTE, GLOW, KKP, KTB, LH, MCS, MODERN, NYT, PDI, PL, QH, ROJNA, SC, SPRC, WHAUP
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ BLAND (เป้าสั้น 1.95 บ.), TRUE (7.85 บ.) / ถือ CHG (2 บ.), COM7 (20.3 บ.) / ขายตัดขาดทุน ADVANC (-2.4%), BIG (-3.3%)
• หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) COM7, IRPC, ROBINS, RS, SF

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research