“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ย่อแล้วดีด” ต้าน 1744/1753จุด รับ 1724/1717จุด ตลาดกังวล Trump จะเปิดศึกการค้ากับจีนรอบใหม่ หลังจะเก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก1แสนล้านดอลล่าร์ แต่มองว่ามีโอกาสที่ทั้ง2ประเทศจะเจรจากันได้ จึงมองเป็นเพียง Noise ระยะสั้น ขณะที่แนวโน้มในประเทศเด่น ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและท่องเที่ยวที่โตดีต่อเนื่อง เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน สอดคล้องกับมุมมองของนักลงทุนแถบเอเชียที่ Nomura ได้ไปพบปะล่าสุด ให้สนใจตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก คาดหนุน Fund Flows เพิ่มเติมได้ กลยุทธ์วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : THAI, ERW, MAJOR
Nomura : Key Factors
- (-) Ex Factor: สหรัฐฯจะพิจารณาเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.33%% สู่ $62.06/bbl / BRT -1.79% สู่ $67.11/bbl
- (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-1,231ลบ,Long Future+21,814สัญญา,ซื้อBond+1,478ลบ.
- (+) TH: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนมีค.ที่ 79.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 79.3
- (+) TH: ทอท.เผยผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยาน 6 แห่งของทอท.ในเดือนมค-กพ เพิ่มขึ้น 7%
- (+) TH: นักลงทุนเอเชียต่างให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทย รับความต้องการโลกที่ฟื้นตัว
Nomura Daily Top Picks: THAI, ERW, MAJOR
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อแล้วดีด” แนวต้าน 1744/1753จุด รับ 1724/1717จุด
ตลาดโลกกังวลเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดี Donald Trump จะเปิดศึกการค้ากับจีนรอบใหม่ หลัง Trump ให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทางจีนก็ได้ออกมาแถลงว่าจะตอบโต้สหรัฐไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม หากสหรัฐยังคงเดินหน้ากีดกันการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว เพิ่มความกังวลและกดดันบรรยากาศการลงทุนอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี Nomura ประเมินผลกระทบจะจำกัด เนื่องจากมีโอกาสที่ทั้ง 2 ประเทศจะสามารถเจรจากันได้ โดยไม่ให้น้ำหนักที่จะเกิดสงครามการค้า ดังนั้นจึงมองเป็นเพียง Noise ที่มากระทบตลาดระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนมีค.ที่ระดับ 79.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 79.3 ผสานทอท.เผยผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยาน 6 แห่งของทอท.ในเดือนมค-กพ เพิ่มขึ้น 7% หนุนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ ASEAN Strategy ล่าสุดที่ Nomura ได้พบปะกับนักลงทุนจากฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ ซึ่งนักลงทุนต่างให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทย รับความต้องการโลกที่ฟื้นตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง โดย Nomura แนะนำกลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล และกลุ่มอิงการบริโภคเด่น
Asset allocation : ถือหุ้น 70% และเงินสด 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 70% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play TOA, CK, STEC, PYLON, CPALL, HMPRO, BH, AOT, ERW, MONO และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) และยังหลีกเลี่ยงกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสงครามการค้า (ส่งออก + TVO) วันนี้เน้น “Selective Play”
Investment related play : HMPRO คาดกำไร 1Q18F ดี +28% y-yเป็น Sentiment บวกต่อ GLOBAL, TOA
Domestic play: เน้นค้าปลีก (CPALL GLOBAL ROBINS TOA)
Songkran play : เม.ย. SET ให้ผลตอบแทนบวก 7 ใน 10 ปีย้อนหลัง เฉลี่ย 2.6% โดยเน้นหุ้นที่ Probability สูงกว่า : 1) บวก 10/10 เก็งกำไร PTTEP 2) บวก 9/10 SCC 3) บวก 8/10 SNC BBL BDMS IRPC BLAND MAJOR
Tourism play : BH (Laggard BDMS), ERW + Air line (เก็งกำไร THAI) เป็น High season และมองน้ำมัน 2Q18F ทรงตัวกรอบ 60-75 เหรียญ
TVD rating : เก็งกำไร BEC Rating 26 มี.ค-1 เม.ย คงเบอร์ 1 และช่วง Prime time ละครแซงช่อง 7 ทุกวัน สะท้อนคนดูเริ่มกลับมา + ซื้อ MONO รักษา Rating เบอร์ 3
Summer Play : หุ้นรับประโยชน์จากอากาศร้อน SNC และ MAJOR เด่นช่วงปิดเทอม
April Top Picks : TOA, IVL, GLOBAL, ROBINS, MAJOR, MONO
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
THAI (NOMURA TP23.72): Support 15.3/15.0 Resistant 16.6/17.2
- Theme: Oil price play
- Earning Outlook: คาดกำไรสุทธิ 1Q18F ที่ 2.15 พันลบ. ลดลง -32% y-y แต่เพิ่มขึ้น +21% q-q จาก Passenger yield ที่ฟื้นตัว +2% q-q และ Load factor ที่เพิ่มขึ้น +3% q-q ต่อเนื่อง ในปี 2018F คาด Load factor แข็งแกร่งที่ 78% และรายได้รวมเติบโต +5% y-y
- Valuation: มูลค่าพื้นฐาน18F ที่ 23.72 บาท จากคาดหวังเชิงบวกการปรับโครงสร้างและค่าเงินบาทแข็งค่า
- Catalyst: THAI ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมัน Brent ปรับตัวลดลง -2.3% จากความกังวลสหรัฐพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่ม 1 แสนล้านดอลลาร์ กดดัน Demand การบริโภคน้ำมันของทั่วโลก
ERW (TP18F 9*): Support 8.0/7.75 Resistant 8.6/8.85
- Theme : Earnings Play
- Earnings outlook : คาดกำไรปกติ2018F โตต่อเนื่อง +24% y-y จากการขยายโรงแรมต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิด Hop Inn ในเมืองไทยอีก 4 แห่งและในฟิลิปปินส์ 3 แห่ง รวมถึง เพิ่มโรงแรมระดับ Midscale และ Economy 2 โรงแรม คือ Novotel และ Ibis style ในไทย ซึ่งโดยรวมเป็นกลยุทธ์ต่อเนื่องที่เพิ่มฐานโรงแรม กลุ่ม Midscale – budget ซึ่งประสบความสำเร็จมาก ทั้ง Investment return และช่วยเพิ่ม Margin โดยรวมของ ERW
- Valuation : ราคาเริ่ม Outperform ได้ หลังปรับฐานมานาน มองเป็นจุดน่าสนใจอีกครั้ง โดยมี PER 18F 32.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีต 37.5 เท่า
- Catalyst : เป็นช่วง High season และคาดเห็น Sector rotation มากลุ่มท่องเที่ยว ในภาวะที่หลายอุตสาหกรรมมีปัจจัยกดดัน
MAJOR (TP18F 30.5*): Support 28.5/28.0 Resistant 30.0/30.5
- Theme : Songkran Play
- Earnings outlook : คาดกำไรดำเนินงานปกติ 2018F ที่ 963 ลบ. ฟื้นตัวเด่น +49% y-y จากฐานต่ำในปีก่อนหน้า และยังคงกลยุทธ์ขยายสาขาสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้า +80 จอในต่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน (2017: +42 จอ)
- Valuation : ราคาหุ้นปัจจุบัน PER18F ที่เพียง 25x เทียบกับกลุ่มที่ 36x + Dividend yield ยังคงสุงเฉลี่ย 3.5% สูงกว่ากลุ่มที่เพียง 1.6%
- Catalyst : เม.ย. SET ให้ผลตอบแทนบวก 7 ใน 10 ปีย้อนหลัง เฉลี่ย 2.6% โดยเน้นหุ้นที่ Probability สูง MAJOR เด่น ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 8 ปีใน 10 ปีย้อนหลัง
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น