คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,3201,3131,306
แนวต้าน 1,3481,3561,365
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และจากความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับนานาประเทศ, สถานการณ์การโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดพุ่งขึ้นถึง 428.9 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่บรรเทาเบาบางลง หลังปธน.สี จิ้นผิงของจีนกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) เมื่อวานนี้ว่า จีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆบางประเภทรวมทั้งเปิดกว้างการเข้าถึงตลาดจีน ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาทวีตแสดงความขอบคุณท่าทีดังกล่าวของปธน.สี จิ้นผิง ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดที่ 0.3%ในเดือนมี.ค. สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ของสหรัฐซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ อีกทั้งยังต้องติดตามข่าวสารรอบด้านเพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจลงทุนในระยะนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาอีกครั้ง แต่หากราคาอ่อนตัวลงไม่มากจะเป็นเพียงแรงขายทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น โดยหากยืนราคาระดับ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,348 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น