Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound โดยมีแรงซื้อเด่นในหุ้นใหญ่ที่ปรับตัวลงในอดีตอย่าง CPALL, SCC และกลุ่มธนาคารนำโดย KBANK, SCB, BBL, KTB และกลุ่มนิคมอย่าง AMATA, WHA และกลุ่มปิโตรอย่าง IVL, PTTGC โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,771.5 จุด (+16.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.0 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 338 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 6,238 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยต่างประเทศเริ่มผ่อนคลาย กลับมาดูผลประกอบการ: ปัจจัยต่างประเทศที่เคยกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยผันผวนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, การโจมตีประเทศซีเรียจากสหรัฐ, อังกฤษ และฝรั่งเศส เริ่มบรรเทาลง ในขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกในประเด็น Geopolitical ภายหลังเกาหลีใต้กำลังเจรจาสงบศึกกับเกาหลีเหนือ อีกทั้งเริ่มเห็นผู้นำของแต่ละประเทศอย่าง ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีเหนือและสหรัฐ เดินทางประชุมร่วมกัน ถือเป็นสัญญาณที่ผ่อนคลายในระยะสั้น และสำหรับปัจจัยการเองในประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ (ที่มาส.ส. และการเลือกตั้งส.ว.) อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวของบรรดาแกนนำพรรคอย่างผิดสังเกตุในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้เห็นลักษณะดังกล่าวมานานเกือบ 4 ปี หลังจากเกิดรัฐประหาร ซึ่งเป็นเป็นสัญญาณบวกอ่อนๆต่อการเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเช่นกัน โดยในช่วง 1 เดือนต่อจากนี้เราคาด SET จะแกว่งตัวตามผลประกอบการ เบื้องต้นคาดกำไรกลุ่มกลุ่มพลังงานและปิโตรจะเติบโตดี อีกทั้งได้ Sentiment บวกทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 40 เดือน ซึ่งเห็นผลจากทั้งฝั่งอุปสงค์น้ำมันดิบ และความกังวลต่างๆที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด โดยเริ่มเห็นสัญญาณปัจจัยต่างประเทศที่ดีขึ้น จากทั้งเรื่อง Tradewar และ ซีเรีย ในขณะที่เราเริ่มเห็นพัฒนาการการเมืองในประเทศแบบอ่อนๆ และสะสมกลุ่มหุ้นที่มี Upside และผลประกอบการดีอย่างกลุ่มพลังงานและปิโตรนำโดย PTTGC, IVL และ PTT
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ก.ท่องเที่ยวเผย ไตรมาสหนึ่งนักท่องเที่ยวเติบโต 15.3%YoY ที่ 10.6 ล้านคน /ยอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปลดลง 5.3% เหตุกำลังซื้อชะลอตัว โดยเฉพาะในอังกฤษและอิตาลี / Brent ปรับตัวขึ้นที่ 73.7 เหรียญ เป็นผลจากการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงกว่า 1.1ล้านบาร์เรล
Stock pick : PSL
PSL : แนะซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 13.70 บาท/หุ้น
ภายหลังความกังวลจากประเด็น Trade war เริ่มบรรเทาลง เรากลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของการค้าโลกอีกครั้ง พร้อมคงคำแนะนำกลับเข้าสะสมกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์นั่นคือกลุ่มพลังงานและกลุ่ม Logistic โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของ BDI อีกครั้ง แนะซื้อเก็งกำไร PSL
คาดกำไรจากการดำเนินงาน 1Q18 จะสามารถพลิกเป็นกำไรที่ 49 ล้านบาท พลิกฟื้นจากปีก่อนหน้าขาดทุน -61 ลบ. โดยสาเหตุหลักมาจาก ระดับค่าระวางเรือของ PSL ที่คาดจะฟื้นขึ้น +11% YoY เป็น 9,550 เหรียญ/ ลำ/ วัน สอดคล้องกับดัชนีค่าระวางเรือเทกอง (BDI) +24% YoY เป็นเฉลี่ย 1,175 จุด (ค่าระวางเรือขนาดเล็กจะเหวี่ยงน้อยกว่าดัชนี BDI)
ปัจจุบันซื้อขายบน PBV คิดเป็น Discount กลุ่มเรือทั่วโลก 15% ที่ 1.61x ส่งผลให้ เราแนะเก็งกำไร PSL ด้วยราคาเหมาะสม 13.70 บาท
Trading idea – – แนะทยอยสะสม IVL ราคาเป้าหมาย 70 บาท (วันนี้มี Preview ผลประกอบการ 1Q ที่คาดเด่น) /
Technical View
ผ่านแนวต้าน Downtrend ได้จะหยุดแนวโน้มขาลง: แรงซื้อกลับจากหุ้นที่ปรับตัวลงก่อนหน้า ทำให้ดัชนีสามารถ Break กรอบแนวต้าน Sideway ที่ 1770 ได้ ทำให้ขณะนี้มองว่ามีโอกาส Break ขึ้นทดสอบแนวต้านกรอบ Downtrend ระยะกลางที่ 1780 หากผ่านได้จะหยุดแนวโน้มขาลง ส่วนแนวโน้มถัดไปจะเป็นการแกว่ง Sideway หรือ Sideway Up ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1800 ยังมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นที่แนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1780 และพิจารณาแรงขาย หากผ่านได้แนะนำ ถือต่อ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนระหว่างวัน มองเป็นโอกาสซื้อที่แนวรับ เพื่อเล่น Trading
แนวรับ : 1766, 1760 แนวต้าน : 1780, 1800
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตา Trump พิจารณา TPP อีกครั้ง / Xi Jingping เตรียมเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ
ปัจจัยในประเทศ: Jack MA เตรียมพบนายกประยุทธ์เช้านี้
หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 84.50-85.00, Tp 88.00//90.00, Cut 84.00)
PTTGC (B 97.00, Tp 100.50, Cut 96.00)
ข่าวเด่น