ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลงหลังจากที่ไม่สามารถยืนเหนือ 1,350 เหรียญได้ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาในเกณฑ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น Unemployment Claims ที่ออกมาใกล้เคียงเดิมที่ระดับ 232,000 ราย และข้อมูล Philly Fed Manufacturing Index ที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 23.2 จุด สำหรับคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ ขณะที่ตลาดกลับมาให้ความสนใจการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง โดยเฟดมีกำหนดการประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้าวันที่ 1-2 พ.ค.นี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงมีความผันผวนในขณะที่กราฟทองคำจะเห็นถึงการหลุด 1,350 เหรียญลงมา และทำให้ระยะสั้นเริ่มเห็นการปรับตัวของทองคำ โดยจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,335 เหรียญ ซึ่งหากราคาทองคำหลุด 1,335 เหรียญลงมาจะทำให้ภาพของทองคำเป็นขาลงได้ โดยบริเวณ 1,340 เหรียญถือเป็นระดับแนวรับสำคัญ ซึ่งจะมีเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญในระดับราย 12 วัน และ 50 วันอยู่บริเวณนี้ จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนเป็นลักษณะหากทองคำหลุด 1,335 เหรียญลงมา อาจจะต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนเป็นขาลงในระยะสั้นๆ
การลงทุน Gold D
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,335 – 1,350 เหรียญ แนะจับตาบริเวณ 1,335 เหรียญเช่นกัน เพราะหากหลุดลงมาให้ปรับกลยุทธ์ระยะสั้นเป็นขาลง
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ เน้นเข้าออกเร็วในวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะปรับลดถานะ หากไม่หลุด 1,335 เหรียญ แนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เน้นเล่นสั้นเข้าออกเร็ว หาจังหวะเข้าซื้อแนวต้านและปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวมาแนวรับ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เน้นบริหารพอร์ตสมดุล และปรับมาเล่นเก็งกำไรระยะสั้นๆ โดยภาพรวมหากราคาหลุด 1,335 เหรียญ ให้หันมาทำกำไรขาลงสั้นๆ
Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,100 บาท
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,150 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น