คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,321-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือ หากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอเพื่อรอดูการสร้างฐานโดยราคาต้องไม่สร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,313 1,302 1,294
แนวต้าน 1,337 1,346 1,356
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.78 ดอลลาร์ต่ออนซ์ โดยราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 424 จุดเมื่อคืนนี้ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุระดับ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลก สถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ถึงแม้จะได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของ Conference Board ที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 128.70 ในเดือนเม.ย.และยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด รวมถึงได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินและอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ก็ตาม สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแรง จะทำให้ตลาดมีโมเมนตัมเชิงลบ และแสดงให้เห็นถึงแรงขายทำกำไรในระดับสูง แต่หากราคาทองคำผ่านแนวต้านแรกมุมมองเชิงลบจะลดลง และมีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเปิดสถานะซื้อหากราคาทองคำไม่หลุด 1,321-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามแนะนำลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากสถานะซื้ออยู่อาจทยอยปิดสถานะทำกำไรในบริเวณ 1,337-1,346ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น