คำแนะนำ
ราคาทองคำยังมีแรงขายเริ่มลดลง ดังนั้น มีโอกาสที่ราคาจะทดสอบราคาโซน 1,333-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมาจึงยังคงแนะนำให้พิจารณาลดสถานะซื้อลง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,313 1,302 1,294
แนวต้าน 1,337 1,346 1,356
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.78 ดอลลาร์ต่ออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดบวกเป็นวันแรกหลังดิ่งลง 5 วันทำการติดต่อกันโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อีกทั้งข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนคลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้ +5.31 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ รวมถึงติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)และธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)คาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินตามเดิมในการประชุมครั้งนี้ แต่อาจต้องติดตามแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางทั้งสองเพื่อหาสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต **GFJ18 และ GF10J18 จะหมดอายุในวันที่ 27 เม.ย.เวลา 16.30 น. แนะนำ Rollover เป็น GFM18 หรือ GF10M18
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หลายชั่วโมง มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,333-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,333-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยพิจาณาค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
ข่าวเด่น