คำแนะนำ
เน้นทำกำไรระยะสั้น โดยการเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด) และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,326-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,313 1,302 1,294
แนวต้าน 1,326 1,337 1,346
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.20 ดอลลาร์ต่ออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งต่อเนื่องหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นเกินคาด ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดถึง 2.6% ส่วนจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับ209,000 รายซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB)คงนโยบายการเงินตามคาด ขณะที่นายมาริโอ ดรากีส่งสัญญาณ ECB ใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปช่วงหลายเดือนข้างหน้า นอกจากนี้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการพุ่งขึ้นถึง 238.51 จุดของดัชนีดาวโจนส์ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน บวกรวมกับนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ปัจจัยเหล่านี้กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 สัปดาห์บริเวณ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีไตรมาส 1/2018ของสหรัฐและผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)คาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินตามเดิม
ปัจจัยทางเทคนิค
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,337ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,302-1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,326-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวเด่น