ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Sideway? มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ (27/04/61)


 ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้

  (+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +238.51, NASDAQ +114.94, S&P +27.54, FTSE +42.11, CAC +40.28 และ DAX +78.17
ภายใต้ยังได้รับปัจจัยหนุนจาก (1) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง เช่น เฟซบุ๊ก ควอลคอม อิงค์ ผู้ผลิตชิพสำหรับสมาร์ทโฟน เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และ เป๊ปซี่โค เป็นต้น และ (2) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน – มี.ค. เพิ่มขึ้น 2.6% จากคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ล่าสุด ลดลง 24,000 ราย อยู่ที่ 209,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ธ.ค.’12 และดีกว่าที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 230,000 ราย
  ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ล่าสุด ลดลงสู่ระดับที่ต่ำกว่า 3.0%
  ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนจากเงินยูโรที่อ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ที่ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงก.ย.’61 ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปช่วงหลายเดือนข้างหน้า
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$0.14 อยู่ที่ US$68.19 ต่อบาร์เรล ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลัง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเตือนว่าอิหร่านจะเผชิญ"ปัญหาใหญ่" หากเริ่มโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีก 5 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสหรัฐฯ ทำการคว่ำบาตรอิหร่าน 
  อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นอยู่ในกรอบแคบ หลังมีความกังวลสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$4.9 อยู่ที่ US$1,317.9 ต่อออนซ์ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และยังได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่า ทำให้ความน่าสนในสัญญาทองคำลดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -488 ล้านบาท ยอดสะสม   -74,748 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท และปี’60 ขายสุทธิสะสม 25,755 ล้านบาท)

ประเด็นที่ต้องติดตาม 27 เม.ย. – 1 พ.ค. 61
27/4/61 สหรัฐฯ เปิดเผย
  (1) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561
  (2) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

30/4/61 สหรัฐฯ เปิดเผย
  (1) รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค.
  (2) ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) - มี.ค.
  (3) ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.

1/5/61 สหรัฐฯ เปิดเผย
  (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.
  (2) ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.
  (3) การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.

ทิศทางตลาด
  Sideway? มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด หลัง Bond Yield ของสหรัฐฯ ล่าสุด ปรับลดลงต่ำกว่า 3.0% แต่อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระดับสูงและใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี (3.03% เมื่อ ธ.ค.’56) คาดยังมีความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินสูงขึ้น ซึ่งกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้น แนะติดตามการประชุมเฟด 1 – 2/5/61 ซึ่งคาดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ภายใต้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งคาด 2 ครั้งที่เหลือ จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และกันยายน ตามลำดับ
  ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ โดยอยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ค. ขณะที่กลุ่มพลังงาน คาดบวก/ลบ ตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามยังมีความน่าสนใจเฉพาะตัว เช่น  PTTEP ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไรจากการเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกช-เอราวัณ โดยคาดมีเปิดประมูลช่วงก.ย.’61 และทราบผลประมูลในเดือนธ.ค.’61 ขณะที่ PTT คาดราคาหุ้นสะท้อนประเด็นการแตก Par ซึ่งเริ่มซื้อขาย Par ใหม่ ที่ 1.0 บาท (จาก 10.0 บาท) ไปแล้ว
  นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม TV Digital เช่น WORK, BEC และ MONO ที่คาดมีแรงเก็งกำไรภายใต้ประเด็นคำสั่ง คสช. ที่จะช่วยกลุ่ม TV Digital โดยการพักชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 3 ปี พร้อมลดค่าเช่าโครงข่าย (Mux) ลง 50% เป็นเวลา 2 ปี และสามารถโอนใบอนุญาตได้ รวมถึงผลประกอบการ – 1Q/61 ที่คาดขึ้น qoq และ yoy
  ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง YTD ยอดขายสุทธิสูงเกือบ 75,000 ล้านบาท พร้อมแนะจับตาสถาบันในประเทศที่เริ่มมียอดขายสุทธิออกมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกเกือบ 1,200 ล้านบาท 
  นอกจากนี้ยังมีประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะจากการยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ อาจส่งผลต่อ Road Map เลือกตั้งในเดือนก.พ.’ 62
  อย่างไรก็ตามในระยะกลาง – ยาว ยังได้รับ Sentiment บวกจากความคืบหน้าโครงการ EEC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศใช้เป็นกฎหมาย คาดส่งผลดีต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ภายใต้โครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน รวมถึงล่าสุด รมว.คมนาคม คาดในเดือนพ.ค. - มิ.ย.นี้ เสนอครม. เพื่อขออนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ และงานเดินรถ จะรวมเป็นรูปแบบ PPP และเตรียมจะเสนอ ครม.ได้ประมาณ 3Q/61

  
และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
  (2) กลุ่มพลังงาน ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น เช่น PTT, PTTEP, BANPU และ SPRC เป็นต้น
  (3) กลุ่มสื่อ ได้รับประโยชน์จากรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นโดดเด่น เช่น MONO
  (4) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เช่น CENTEL, ERW และ SPA เป็นต้น
  (5) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT และ PSL จากค่าระวางเรือ และ BTS จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
  (6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากโครงการ EEC ที่มีความชัดเจนขึ้นตามลำดับ คาดได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และโครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 2.99% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.60 อยู่ที่ 16.24
  หุ้นแนะนำ : PTTGC


บันทึกโดย : วันที่ : 27 เม.ย. 2561 เวลา : 09:47:08

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:16 am