กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways Up ตามคาดโดยสามารถปิดบวกได้ 6.32 จุด ณ สิ้นวันจากบรรยากาศในภาพรวมที่ผ่อนคลายขึ้นหลัง Bond Yield สหรัฐฯเริ่มย่อตัวต่ำกว่า 3% แต่กรอบการบวกจำกัดเนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขคาดการณ์ GDP 1Q18 ของสหรัฐฯ นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 2.1 พันลบ. (และ Net Short ใน Index Futures สูงถึง 4.7 พันสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิ 2.2 พันลบ. 
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways แม้ตัวเลขคาดการณ์ GDP 1Q18 ครั้งแรกของสหรัฐฯจะออกมาดีกว่าที่คาด แต่ตลาดไม่ได้ตอบรับเชิงบวกนัก ขณะที่สัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามคือการประชุม FOMC และ GDP  ของยูโรโซน ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเราจะปิดทำการวันพรุ่งนี้ ทำให้โดยรวมยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนอย่างชัดเจน จึงมองว่าระยะนี้ยังน่าจะเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นรายตัวที่คาดว่าจะประกาศกำไร 1Q18 ออกมาแข็งแกร่ง
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 1Q18 แข็งแกร่ง
  หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX  
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$74ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$169ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$67ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค หลัง US Bond Yield ขยับลงก่อนการประชุม Fed ในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย   

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTLS <<

• แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 51 บาท
• คาดกำไรสทุธิ 1Q18 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 750-780 ลบ. +5% Q-Q, +45% Y-Y ตามการขยายตัวของสินเชื่อและการเปิดสาขาใหม่
• ความเสี่ยงด้าน กม. ควบคุม Non-Bank และประเด็นรายได้ค่าธรรมเนียมกระทบต่อ MTLS จำกัด
• ราคาหุ้นมักปรับขึ้นก่อนงบออก โดยช่วงหลังขึ้นเฉลี่ย 6% ใน 2 สัปดาห์ก่อนประกาศงบ 3Q-4Q17

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) มีหลายปัจจัยต้องจับตาในสัปดาห์นี้ นอกจากจะมีผลประชุม FOMC ให้ติดตามในวันที่ 1-2 พ.ค.  แล้ว ยังมีการเปิดเผย 1Q18 GDP ของยูโรโซนวันที่ 2 พ.ค. และตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดสาขาต่างๆ ในวันที่ 4 พ.ค. อีกทั้ง ในบ้านเรายังเป็นสัปดาห์ของการขึ้น XD และมีวันทำการเพียง 4 วัน ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวของ SET มีโอกาสถูกจำกัดด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางเช่นเดียวกับสัปด์ก่อนต่อไป   
  (+) คาดกำไร 1Q18 ของผู้ค้าสินค้าไอทีออกมาโดดเด่น โดยอ้างอิงจากยอดนำเข้าสินค้าไอทีล่าสุด มี.ค. 18 ที่โตแบบ Y-Y ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 อีก +7% Y-Y อยู่ที่ 24,131 ลบ. ทำให้ยอดนำเข้าทั้ง 1Q18 อยู่ที่ 68,892 ลบ. +13% Y-Y ถ้าหักปัจจัยฤดูกาลออก จะถือเป็นยอดนำเข้าที่สูงสุดในรอบ 6 ปี โดยได้แรงหนุนจากทั้งการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ตลาดเกมมิ่งที่โตแรง รวมถึงการขยายตัวของธุรกรรม E-Commerce แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q18 ของผู้ขายสินค้าไอทีจึงมีโอกาสออกมาสดใสอย่างมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ Tech Firm ทั่วโลก เราแนะนำซื้อ IT (TP 6.90 บาท) คาดกำไร +13% Q-Q, +153% Y-Y และ SYNEX (TP 20บาท) คาดกำไร +13% Q-Q, +25% Y-Y
  (0) คาดกำไรปกติ 1Q18 กลุ่ม Media ฟื้นสูง Q-Q จากฐานต่ำไตรมาสก่อน แต่ลดลง 29% Y-Y ตามผลการดำเนินงานของ BEC ที่ยังขาดทุน บริษัทที่มีกำไรเพิ่ม Y-Y เด่นสุด คือ RS +506% Y-Y VGI (4Q18) +26% Y-Y และ PLANB +21% Y-Y ส่วน WORK คาดกำไรเพิ่มเล็กน้อย 10% Y-Y และ MAJOR คาดกำไรปกติลดลง Y-Y แนวโน้มกำไร 2Q18 ของกลุ่มดีขึ้น Q-Q เมื่อเข้าช่วง High season คงแนะนำน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Neutral โดย Top-Pick เป็น RS ราคาเป้าหมาย 35 บาท PLANB ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท และปรับคำแนะนำ WORK ขึ้นเป็นซื้อสะสม จากเดิมถือ ราคาเป้าหมาย 78 บาท 
  (0) ICHI แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q18 ยังไม่สดใสนัก คาดโตได้เพียง 8.1% Y-Y แต่ยังลดลง 28% Q-Q แม้รายได้ส่งออกยังโตได้ดีต่อเนื่อง แต่ถูกหักล้างด้วยการอ่อนตัวลงของรายได้ในประเทศ ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาขายเต็มไตรมาส และยังมีค่าใช้จ่ายปรับสูงขึ้นจากการเริ่มเข้าสู่ช่วงทำโปรโมชั่นครั้งใหญ่ของปี คาดกำไรน่าจะกลับมาเติบโตใน 2Q18 เพราะเป็นช่วงหน้าร้อน เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 +53.3% Y-Y เติบโตสูงเพราะฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่มี Downside หากปริมาณขายในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าคาด และด้วยราคาเป้าหมายของเราที่ 8.5 บาท มี Upside เพียง 7.6% จึงคงคำแนะนำเพียงถือ
  (+) SPALI เราแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเหมาะสมที่ 26 บาท  จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีต่อเนื่องจาก Backlog ที่อยู่ในระดับสูง ทยอยรับรู้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงเป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q18 เราคาดไว้ที่ 940 ลบ. ลดลง 45% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่โตเด่น 37% Y-Y จากการเน้นโอนแนวราบ และเริ่มโอนคอนโดใหม่ 1 แห่ง ขณะที่โมเมนตัมกำไรคาดเป็นบวกต่อเนื่องใน 2Q18 จากการรุกเปิดโครงการใหม่เพิ่ม และการเริ่มส่งมอบคอนโดอีกหลายแห่ง เรา คาดกำไรปกติทั้งปี +8% Y-Y และคาดกลับมาจ่ายปันผลปกติที่ระดับ 4-5% ต่อปี
  (+) MAJOR ราคาหุ้นระยะสั้นได้แรงหนุนจากหนัง Avenger Infinity War ที่มีกระแสข่าวทำรายได้วันแรก (25 เม.ย.) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 100 ลบ. และเดือนมิ.ย. มีเรื่อง Jurassic Park ซึ่งน่าจะหนุนกำไร 2Q18 เป็น Peak ของปีตามปกติ แต่ยังต้องลุ้นว่ากำไรปกติจะสามารถโตจาก 2Q17 ที่ 453 ลบ. ได้หรือไม่ เราคงประมาณการกำไรปกติปีนี้ฟื้น 20% Y-Y และราคาเป้าหมายที่ 28.50 บาท แนะนำเพียงซื้อเก็งกำไร 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (0) ตลาดสหรัฐปรับตัวผสมผสาน แม้ว่าตัวเลข GDP จะออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.3% (ตลาดคาด 2.0%) แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน และตลาดยังเริ่มกังวลว่าผลกำไรบริษัทจดทะเบียนในอนาคตจะถูกกดดันด้วยดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
• (+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังค่าเงินปอนด์และยูโรที่อ่อนค่าลงจะส่งผลดีต่อกำไรบริษัทส่งออกและบริษัทข้ามชาติ
• (+) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากมีข่าวดีจากทางเกาหลีเหนือว่านายคิม จอง อึนจะเปิดให้นักข่าวจากเกาหลีใต้และสหรัฐเข้าไปทำข่าวการปิดโรงงานทดสอบนิวเคลียร์หลักในเดือนพฤษภาคม
• () ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.40-31.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.09 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.10 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากจำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 825 แท่น
• ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 5.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,323.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง