Today Selections >> AOT, BEM, MAJOR
Stock S R Comment
AOT 70.75 73.00 กำลังซื้อจีนโตไม่หยุด ททท คาดคนจีนเที่ยวไทย 11 ล้านคน
BEM 7.70 7.95 พร้อมลุย High Speed 3 สนามบิน
MAJOR 28.00 30.00 คนแห่ดู Avengers Infinity War หนุนรายได้โต
U.S. rig count rose to highest level in 3 years
Factors : ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
1) การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนเมษายนในวันที่ 30 เมษายน ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 51.3 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน
2) การประชุม FOMC ที่จะทราบผลในช่วงคืนวันที่ 2 พฤษภาคมตามเวลาบ้านเรา ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายแต่อย่างใด และไม่น่าจะมี Impact มากนัก เนื่องจากไม่มีการแถลงข่าวและการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจหลังการประชุม
3) การรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯประจำเดือนเมษายนในวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์อัตราการว่างงานที่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000
4) การเคลื่อนไหวของ Bond yield สหรัฐฯและไทย ที่อาจส่งผลกระทบต่อปรากฏการณ์ Asset allocation (ล่าสุดรุ่นอายุ 10 ปีของสหรัฐฯปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 3% แล้ว แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง)
5) ปัจจัยต่างๆที่อาจกระทบราคาน้ำมันเช่นการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และท่าทีของสหรัฐฯต่อข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
6) การรายงานผลประกอบการของบจ.ประจำไตรมาสที่ 1/61 และการปรับประมาณการ EPS ของนักวิเคราะห์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ Valuation ของตลาด
Oil : สหรัฐฯรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันใช้งานประจำสัปดาห์ล่าสุดที่ 825 แท่น ปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีอีกครั้ง บ่งชี้แรงกดดันทางด้านอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงถัดไป ปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เรากังวลว่า ราคาน้ำมันดิบมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานในระยะสั้น จนส่งผลกระทบต่อกลุ่มพลังงานและ SET Index ได้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำนักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงสั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง 3 ประการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ 1) การปรับลดประมาณการกำไรของบจ. ที่เริ่มลามมายังกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏการณ์ขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ 2) การปรับตัวพุ่งสูงขึ้นของ Bond yield ทั่วโลก จนทำให้ล่าสุด Earning yield gap ของตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ Lehman crisis 3) Downside risk ของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และ 4) การปรับตัวขึ้นมาของ Bond yield ไทย ที่อาจทำให้นักลงทุนในประเทศมีแรงจูงใจที่จะโยกย้ายเงินออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้มากขึ้น
Theme : หากจะต้องเลือกลงทุนในช่วงนี้ กลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Selective ได้แก่
1) กลุ่มปิโตรเคมีที่ Spread ผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับสูง ได้แก่ IVL (ราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 70 บาท)
2) กลุ่มโรงแรมที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT (48 บาท) และ ERW (8.90 บาท)
3) กลุ่มนิคมฯและ Logistics properties ที่ได้ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA และ WHA (ราคาเป้าหมาย Consensus อยู่ที่ 27 บาทและ 4.60 บาทตามลำดับ)
4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มี Dividend yield อยู่ในระดับสูง ได้แก่ QH (3.85 บาท) และ AP (9.20 บาท)
5) กลุ่มสื่อสารที่มี Regulatory risk ที่ลดลง ประกอบกับความน่าจะเป็นที่จะได้รับมาตรการเยียวยาจากภาครัฐมีสูงขึ้น เลือก ADVANC (217 บาท) และ TRUE (8.30 บาท)
6) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มชิ้นส่วนฯที่ได้อานิสงส์จากการที่เงินบาทกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการอ่อนค่ามากที่สุดประจำปี ได้แก่ KCE (88 บาท) และ HANA (44 บาท)
แนวรับ 1,762 แนวต้าน 1,787
Today's Event :
ADB XD 0.02 บาท SAUCE XD 0.08 บาท
CHG XD 0.012 บาท SCG XD 0.15 บาท
EASTW XD 0.24 บาท THRE XD 0.05 บาท
LHFG XD 0.03 บาท TVI XD 0.07 บาท
LPH XD 0.10 บาท UKEM XD 0.04 บาท
RSP XD 0.15 บาท APURE XW 10:1
SAMCO XD 0.05 บาท RCI XR 3:1 @ 1.50 บาท
SAUCE XD 0.92 บาท TVD-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (162.5mn sh 1:1 @ Bt1.00)
ข่าวเด่น