" ติดตาม FOMC "

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวแคบปิดบวกเล็กน้อย 2.09 จุด (+0.12%) ปิดที่ 1,780 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นตลาดประกอบกับนักลงทุนรอติดตามผลการประชุม FOMC ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์และจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปหรือไม่  ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 2,723 ลบ. และ Net Short TFEX 3,268 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,115 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: ประเมินว่า SET มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 1,770 - 1,790 จุด เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุม FOMC ในวันนี้ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% แต่ต้องจับสัญญาณทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงหลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐเดือนก.พ.พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 10.2 ล้านบาร์เรล/วันจะเป็นแรงกดดันต่อดัชนีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามแรงซื้อดักงบ Q1/18 ที่กำลังทยอยประกาศจะเป็นแรงหนุนต่อดัชนีในจังหวะย่อตัว 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy

• TVO คาดกำไร Q1/18 เติบโต และราคากากถั่วเหลืองทำ High รอบเกือบ 2 ปี 404.9 cent/บุซเซล
• BANPU LANNA ราคาถ่านหินพุ่งขึ้น +8% WoW ล่าสุด 102 US/Tons
• กลุ่มอาหาร ( CPF TU ) อานิสงส์เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าล่าสุด 31.7 Bath/USD. 

หุ้นแนะนำวันนี้: HTC (ปิด 21.2 ซื้อ /เป้า 35) มองราคาหุ้นลดลงแรงมากเกินไปกังวลงบ 1Q18 พลาดเป้า แต่เป็นแค่การเลื่อนรับรู้ผลบวกจากราคาน้ำตาลในประเทศที่ลดลงจาก 1Q18 ไปเป็น 2Q18 ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีกำไรยังคงเดิมโดยปีนี้คาดกำไรสุทธิประมาณ 384 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36%yoy

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018 : ธนาคาร, พลังงาน,อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, MTLS, PTTGC, QH, and SPALI 

KSS report วันนี้ :BEM  (ปิด 7.75 ซื้อ/เป้าใหม่ 8.6 จาก 9.0), GCAP (ปิด 5.4 ซื้อ/เป้า 8.0), MTC  (ปิด 36.5 ซื้อ/เป้า 50.0)

ประเด็นสำคัญวันนี้:
          (+/-) เดือนมี.ค. Set Index ทรงตัว แต่พอร์ตการลงทุนของเราให้ผลตอบแทนติดลบ 3.2% แนวโน้มเดือน พ.ค. คาด SET พักฐานต่อเนื่อง กลยุทธ์การลงทุน เน้นกลุ่มที่ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q18 มาแล้ว Top pick BANPU CPF IVL HTC และ AEONTS : เดือน มี.ค. หุ้นในพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 5 หลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนติดลบ 3.1% เทียบกับตลาดที่ให้ผลตอบแทน 0.2% โดย CENTEL และ IVL ให้ผลตอบแทนมากที่สุด 6.6% และ 5.2% SNC ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วน BIG และ HTC ให้ผลตอบแทนติดลบ -8.3% และ -19.2% ตามลำดับ  ส่วนมุมมองเดือน พ.ค. คาด SET Index จะยังพักฐานในกรอบ 1,750-1,850 ตามเดิมเนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ตลาดรอความชัดเจนเกี่ยวกับการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ในวันที่ 12 พ.ค. และ การทำประชาพิจารณ์ของสหรัฐเพื่อประกาศใช้มาตรการภาษีของโดนัลทรัมป์ ในวันที่ 15 พ.ค. ส่วนปัจจัยในประเทศจะเป็นการประกาศผลการดำเนินงานของกลุ่ม Real Sector แต่จะมีแรงขาย Sell on fact หลังการประกาศงบ กลยุทธ์เดือนนี้เน้นหุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว โดยมี Top pick คือ  BANPU CPF IVL HTC และ AEONTS 
          (+/-) ประชุมเฟดคืนนี้คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตามเดิม แต่อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในช่วงเวลาที่เหลือ : เนื่องจากดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Index) ของสหรัฐในเดือน มี.ค.ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อของเฟดปรับตัวขึ้นจากระดับ 1.6% ในเดือน ก.พ.เป็น 1.9% ในเดือน มี.ค.เข้าใกล้อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% นับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.ของปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในช่วงเวลาที่เหลือคือ มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค.ซึ่งมากกว่าที่เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเพียง 2 ครั้ง คือ มิ.ย.และ ธ.ค. 
          (-) ราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและกังวลสหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม :วานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 67.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตลาดยังวิตกกังวกลต่อการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐโดยล่าสุดมีจำนวนแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้นอีก 5 แท่น เป็น 825 แท่น สูงสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงิน US) โดย Dollar index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 92.46 สูงสุดในรอบ 4 เดือน