ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน FED คงดอกเบี้ยตามคาด (03/05/61)


 Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่ง Sideway up โดยมีแรงเก็งกำไรมากในหุ้นขนาดใหญ่ (Big cap) นำโดย PTT, BANPU, CPALL, IVL ซึ่งราคาหุ้นแต่ละตัวสามารถปิดในระดับจุดสูงสุดของวันได้ โดยสำหรับภาพตลาด ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,791.1 จุด  (+11.02 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.7 หมื่นล้านบาท   
  นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,342 ล้านบาท แต่เปิดสถานะ Long  SET50 index future ที่ 1,551 สัญญา  

Investment theme
  FED คงดอกเบี้ยตามคาด / ส่งสัญญาณเงินเฟ้อเร่งตัว :  จากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ FED มีมติเอกฉันท์ 8-0 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่เราและตลาดคาด โดย FED แสดงความเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่จะขยายตัวได้ สะท้อนจากตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง (อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ) และการลงทุนทางธุรกิจมีสัญญาณที่ดี แต่อย่างไรก็ดีมุมมองดังกล่าวบ่งชี้ถึง อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังปรับตัวเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของ FED ที่ 2.0% ซึ่งสัญญาณดังกล่าวคาดจะส่งผลให้แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐมีโอกาสเร่งตัวขึ้นได้ โดยคาดการณ์ประชุม FED รอบหน้าในวันที่ 12-13 มิถุนายน นี้ มีโอกาสสูง (Bloomberg consensus ให้น้ำหนัก 100%) ที่ FED จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.0% (จะถือเป็นการขึ้นครั้งที่ 2 ของปีนี้) แต่ถือว่าอยู่ในกรอบการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ซึ่งคาดจะไม่ได้เป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากมายนัก     
  Investment Theme:  คาด SET ระยะสั้นแกว่งในกรอบ 1770-1805 จุด โดยแนะนำกลยุทธ์ ขึ้นขาย-ลงซื้อ เน้นหุ้นกลุ่ม Big Cap ที่มีแนวโน้มของผลประกอบการเติบโตเด่นทั้งไตรมาส 1 และ 2 เช่น กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPN, SF), ขนส่ง (BTS, BEM), พลังงานและปิโตรเคมี (IVL, PTTEP) และอสังหาฯ (LH)

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  จีนรายงาน Caixin PMI ภาคการผลิตเดือน เม.ย.ที่ 51.1 เพิ่มขึ้นจาก 51.0 และดีกว่าคาดที่ 50.9 / ยูโรโซน รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน เม.ย. ที่ 56.2 เพิ่มขึ้นจาก 56.0 และดีกว่าคาดที่ 56.0 / ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 80.9 จาก 79.9 ในเดือนก่อนหน้า

Stock pick : CPALL
CPALL : แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 94.00 บาท/หุ้น
  คาดกำไรสุทธิ 1Q61 จะทำระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง ที่ระดับ 5,707 ล้านบาท (+20%YoY, +3%QoQ) จากการเพิ่มสาขาต่อเนื่องราว 710 สาขาต่อปี และ SSSG ในช่วง 1Q61 คาดเติบโตแกร่ง +4%
  รับอานิสงส์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวไทยที่เร่งตัวขึ้นเด่น ส่งผลบวกต่อยอดขายขยายตัวขึ้น
  การขายหุ้น MAKRO 4.8% ในช่วงปลายเดือน มี.ค. ส่งบวกต่อกำไร CPALL ราว +0.1% และจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.4 เท่า เป็น 1.3 เท่า  
  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือน เม.ย. ทำจุดสูงสุดในรอบ 40 เดือน สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการบริโภคในประเทศ 

Technical View


  Rebound แรงช่วงท้ายตลาด ทำให้ยังกลับมาแกว่งในกรอบ:  แรง Rebound ช่วงท้ายตลาดจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนี Rebound จากแนวรับสำคัญที่ 1770 ส่งผลให้ MACD ผงกหัวขึ้นอีกครั้ง ระยะสั้นจึงยังคงมุมมองว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1770-1800 และกลับมาให้มุมมองเชิงบวกมากขึ้น หลังดัชนี Rebound จากแนวรับอย่างมีนัยสำคัญเป็นวันแรก วันนี้หากปิดยืน 1800 จะถือเป็นการ Break กรอบ Sideway และ Upside จะเปิดมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1770-1800 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ หากไม่ผ่าน 1800 อาจขายทำกำไร 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนระหว่างวัน มองเป็นโอกาสซื้อที่แนวรับเพื่อเล่น Trading สั้นๆ
แนวรับ : 1780, 1770 แนวต้าน : 1800, 1820

Keep an eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ: ยุโรปรายงานเงินเฟ้อ 3 พ.ค.  / 4 พ.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงาน และค่าแรง
  ปัจจัยในประเทศ: ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา พรป.ที่มา สว. 3 ประเด็น วันที่ 23 พ.ค.

หุ้นเทคนิค:
  CPALL (B 87.00-87.50, Tp 90.00//92.00, Cut 86.00)
  PTT (B 56.00, Tp 59.00, Cut 55.00)


บันทึกโดย : วันที่ : 03 พ.ค. 2561 เวลา : 09:24:33

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:16 am