คำแนะนำ
หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป และเมื่อราคาอ่อนตัวลงให้เข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,310 1,302 1,294
แนวต้าน 1,326 1,337 1,348
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากในระหว่างวันผันผวนในกรอบ 1,318.94 - 1,309.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ประกอบกับยูโรอ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีและความเชื่อมั่นของนักลงทุนยูโรโซนที่อ่อนแอเกินคาด แต่การปรับตัวลดลงของทองคำถูกสกัดไว้ด้วยความวิตกเกี่ยวสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ในอิหร่าน สำหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดที่ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ในเวลา 14.15 น.ตามเวลาไทย รวมถึงติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กและตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐ อีกทั้งต้องจับตาผลการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในวันนี้เวลาตี 1 ตามเวลาไทย ซึ่งผลการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นการถอนตัวหรือไม่ถอนตัวอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดเงิน ตลาดทุนและทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ จึงต้องติดตามข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านและก่อนหน้านี้มีแรงช้อนซื้อเก็งกำไรสลับเข้ามา เบื้องต้น หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง
ข่าวเด่น