ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ยังคงประเมินภาพดัชนีหุ้นไทย (08/05/61)


 Today Selections  >>  BGRIM, CPALL, SPRC

Stock          S          R         Comment
BGRIM        27.00      31.00       หุ้น Defensive คาดแข็งแกร่งกว่าตลาด
CPALL        87.00      90.00       ฟ้าครึ้มๆแวะ 7-11 สะดวกซื้อทุกฤดูกาล
SPRC         15.90      17.00       คาดแนวโน้มเติบโตดี และ Upside Risk จากโครงการเพิ่มกำลังการผลิต

All eyes on Iran nuclear deal
          Iran deal : ติดตามการประกาศการตัดสินใจของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในช่วงดึกคืนนี้ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งเราประเมินต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ว่าผลที่ออกมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ โดยหากสหรัฐฯมีการถอนตัวออกจากข้อตกลงนั้น อาจทำให้นักลงทุนคาดการณ์ไปถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในช่วงถัดไปได้ ซึ่งจะเป็นการจำกัดอุปทานน้ำมันจากอิหร่านอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีคาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมาส่วนหนึ่ง เป็นการ Price in ปัจจัยดังกล่าวไปบ้างแล้ว ในทางกลับกัน หากสหรัฐฯตัดสินใจยังไม่ถอนตัวออกจากข้อตกลง คาดว่าราคาน้ำมันอาจมีการย่อตัวลงมาตามปัจจัยพื้นฐานได้ ซึ่งล่าสุดยังคงไม่สนับสนุนราคาน้ำมันที่ระดับสูงตรงนี้ อาทิเช่น ตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันใช้งานและสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ในเชิงกลยุทธ์ เรายังคงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะตัวที่อิงกับราคาน้ำมันเป็นหลัก เช่น PTTEP
          กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงประเมินภาพดัชนีหุ้นไทยเดือนพฤษภาคมแกว่งตัวในกรอบ 1740-1820 จุดต่อไป มอง SET Index ที่ระดับปัจจุบันยังมีอัตรา Risk/Reward ratio ที่ไม่น่าสนใจ จึงแนะนำชะลอการลงทุนต่อไปจนกว่าดัชนีจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับของเราที่ 1750-1760 จุด ซึ่งเป็นระดับต้นทุนดัชนีของนักลงทุนสถาบันในประเทศ แต่หากจะต้องเลือกลงทุนในช่วงนี้ มองกลุ่มหุ้นแนะนำของเราที่มี Theme เฉพาะตัว จะสามารถปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดได้ ได้แก่
          1) กลุ่มปิโตรเคมีที่ Spread ผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับสูง ได้แก่ IVL (ราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 70 บาท)
          2) กลุ่มโรงแรมที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT (48 บาท) และ ERW (8.90 บาท)
          3) กลุ่มนิคมฯและ Logistics properties ที่ได้ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA (ราคาเป้าหมาย Consensus อยู่ที่ 27 บาท) - เราถอด WHA ออกชั่วคราวเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไป
          4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มี Dividend yield อยู่ในระดับสูง ได้แก่ QH (3.85 บาท) และ AP (9.20 บาท)
          5) กลุ่มสื่อสารที่มี Regulatory risk ที่ลดลง ประกอบกับความน่าจะเป็นที่จะได้รับมาตรการเยียวยาจากภาครัฐมีสูงขึ้น เลือก ADVANC (217 บาท) และ TRUE (8.30 บาท)
          6) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มชิ้นส่วนฯที่ได้อานิสงส์จากการที่เงินบาทกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการอ่อนค่ามากที่สุดประจำปี ได้แก่ HANA (44 บาท) เราถอด KCE ออกชั่วคราวเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไป
          7) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป และราคายังปรับตัวขึ้นมาไม่มาก ได้แก่ RATCH (ราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 61 บาท) และ  BGRIM, ESSO (ราคาเป้าหมาย Consensus อยู่ที่ 31.25 บาทและ 17.9 บาทตามลำดับ)
          แนวรับ  1,774  แนวต้าน 1,790

บทวิเคราะห์วันนี้ :

  • PTTGC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 110 บาท) ประกาศกำไรสุทธิ 12,388 ล้านบาท +30% qoq ไร้ด้อยค่าและ Hedging Loss จากไตรมาสก่อน

Today's Event   :                                                                   
          ARROW  XD 0.35 บาท       PG  XD 0.23 บาท         WHA  XD 0.0907 บาท     
          BWG  XD 0.029 บาท        PPS  XD 0.04 บาท        CHUO  XR 1:2 @ 0.20 บาท 
          ESTAR  XD 0.055 บาท      RPH  XD 0.055 บาท       NVD  XW 5:1
          LH  XD 0.35 บาท          SSSC  XD 0.165 บาท      SAMART  XW 3:1
          LRH  XD 0.38 บาท         TNPC  XD 0.03 บาท       SMT  XW 4:1            
          MODERN  XD 0.20 บาท      TRU  XD 0.14 บาท        2S ลูกหุ้นเข้า 49,999,463 หุ้น
          NNCL  XD 0.08 บาท        TWPC  XD 0.32 บาท           NVD  XD 0.06 บาท
         TWZ  XD 0.00104 บาท       ORI  XD 0.55 บาท         VARO  XD 0.20 บาท


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 พ.ค. 2561 เวลา : 09:53:32

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:10 am