กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังคงแกว่งพักตัวตามคาดแม้หุ้นในกลุ่มพลังงานจะรีบาวด์ขึ้นได้หลังสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่กลุ่มสื่อสารฯยังถ่วงตลาดซึ่งคาดว่าเกิดจากประเด็นประมูลคลื่น 1800 MHz ที่จะส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 13 อีก 1.8 พันลบ. (และ Short ใน Index Futures อีก 8.4 หมื่นสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิราว 1.1 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะรีบาวด์ขึ้นได้ระยะสั้นหนุนโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่หนุนตลาดหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งจากผลของการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรายังมองการฟื้นตัวของดัชนีจำกัดบริเวณ 1,770 จุดเนื่องจากกระแสเงินทุนยังไหลออกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 1Q18 โดยรวมยังไม่ได้สร้าง Surprise ในเชิงบวกอย่างมีนัยยะ เราจึงยังมองว่าตลาดยังคงอยู่ในช่วงของการแกว่งพักตัว
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ Laggard และมีกำไร 1Q18 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$236ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$133ล้าน และไทย US$58ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$1ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่อาจเบาบางลงหลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้จากการประกาศถอนตัวข้อตกลงนิวเคลียร์ของสหรัฐต่ออิหร่าน
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BDMS <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท
- คาดกำไรสุทธิ 1Q18 ที่ 2,304 ลบ. +13% Q-Q, +17% Y-Y จากโรคระบาดที่มากขึ้นในปีนี้ทั้งไวรัสโรต้าและพิษสุนัขบ้า
- คาดกำไรปกติทั้งปีที่ 9,121 ลบ. +14% Y-Y จากรายได้ที่โตทั้งผู้ป่วยไทยและต่างชาติ รวมถึงสัดส่วนรายได้กลุ่มลูกค้าประกันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการควบคุมต้นทุนได้ดีเยี่ยม
- ราคาหุ้นไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ และฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการดีดตัวระยะสั้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) MAKRO กำไรสุทธิ 1Q18 เท่ากับคาดที่ 1,628 ลบ. (-13% Q-Q, ทรงตัว Y-Y) ไม่ตื่นเต้นเพราะ SSSG ทำได้เพียง +0.2% Y-Y เนื่องจากราคาหมูและน้ำมันปาล์มปรับลงแรง และมีเปิดสาขาเล็ก 1 แห่งที่ประชาอุทิศ แนวโน้มน่าจะกลับมาดีขึ้นใน 2Q18 เพราะราคาหมูกลับมาปรับขึ้น ยังคงราคาเป้าหมายที่ 42 บาท ราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว ไม่แนะนำ ส่วนในมุมมองของ CPALL เนื่องจากกำไรของ MAKRO ออกมาใกล้เราคาดที่ 1,635 ลบ. จึงไม่กระทบคาดการณ์กำไรของเรา +3% Q-Q, +19% Y-Y อยู่ที่ 5,688 ลบ. ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
(-) THCOM ประกาศกำไรสุทธิ 1864 ลบ. แต่หากตัดรายการกำไรพิเศษจากการขายหุ้น CSL ออก จะพลิกมาขาดทุนปกติ 24 ลบ. -121.1% Q-Q, -113.3% Y-Y เนื่องจากรายได้ยังคงหดตัวแรงจากการสูญเสียลูกค้าและภาวะอุตสาหกรรมที่ย่ำแย่ ขณะที่การขายเหมา Capacity IPSTAR ในฟิลิปปินส์ล่าสุดเราไม่ได้มองเป็นบวกต่อ THCOM อย่างมีนัยยะ ยังคงคาดการณ์ทั้งปีขาดทุนปกติ 194 ลบ. -136.6% Y-Y แม้ราคาหุ้นปรับลงมากจนมี Upside ราว 20% เทียบกับราคาเหมาะสมที่ 11 บาท แต่เรามองว่ายังไม่ได้มีปัจจัยบวกในการเข้าลงทุน จึงปรับคำแนะนำขึ้นจากขาย ขึ้นเป็นเพียงถือ
(+) IT กำไรสุทธิ 1Q18 ออกมาดีกว่าคาด 20% อยู่ที่ 19 ลบ. +35% Q-Q, +202% Y-Y แต่เมื่อวานที่ราคาหุ้นปิดร่วง 6% เนื่องจาก 1 เดือนที่ผ่านมา ราคา IT +22% มากกว่าผู้ขายสินค้าไอทีตัวอื่นที่ขึ้นเฉลี่ย 5% ซึ่งเรามองว่าแรงขายแบบ sell on fact นั้นมากเกินไป โดยตลาดอาจกังวลว่ากำไรดีขึ้นแค่ชั่วคราว และ 2Q18 จะดีต่อเนื่องหรือไม่ ในมุมมองของเราคาดว่ากำไรรอบนี้ฟื้นจริง และจะดีต่อเนื่องในทุกไตรมาส เพราะผลของการปรับโครงสร้างองค์กรที่ได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ทำให้ IT เข้าใจวงจรสินค้าที่เปลี่ยนเร็วมากขึ้น ขณะที่ ไตรมาส 1 มักเป็นจุดต่ำสุดของปี และ 2Q18 จะได้แรงหนุนจากทั้งงาน TME (24-27 พ.ค.) และ Commart (21-24 มิ.ย.) ทำให้เราคาดจะเห็นการเติบทั้ง Q-Q และ Y-Y ราคาหุ้นที่ลงจึงมองเป็นโอกาสซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท
(0) TK กำไร 1Q18 ฟื้นตัวตามคาดที่ 112 ลบ. +2% Q-Q, +8% Y-Y เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยที่ฟื้นตัวและ Loan spread ที่ขยับขึ้น แต่สังเกตว่าค่าใช้จ่ายสำรองฯและค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยยังสูงจาก NPL ที่ยังไม่ผ่อนคลายลงและมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดพิเศษที่เกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสก่อน เรามีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีลงราว 10-15% อยู่ที่ 480 -500 ลบ. เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้กระนั้นราคาตรงนี้ยังถือว่าน่าสนใจซื้อลงทุนเนื่องจากคาดการณ์กำไรในช่วงที่เหลือของปีน่าจะดีขึ้นและ 1Q18 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี (ราคาเหมาะสมเดิมอยู่ที่ 16.70 บาท)
(0) COMAN กำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 3 ลบ. -75% Q-Q, -40% Y-Y จากการรับรู้รายได้ขายซอฟแวร์โรงแรมของโคแมนที่ลดลง เพราะลูกค้ารายใหญ่เลื่อนไปเป็น 2Q18 เนื่องจากยังก่อสร้างไม่เสร็จ ขณะที่ ธุรกิจของ MSL ยังมีการบันทึกเข้ามาในส่วนของธุรกิจที่ถูกยกเลิก ซึ่งขาดทุนอยู่ราว 1 ลบ. ซึ่งจะเข้ามาถ่วงงบของ COMAN เป็นไตรมาสสุดท้าย หากหักออก กำไรปกติยังทรงตัว Y-Y ส่วนแนวโน้ม 2Q18 จะดีขึ้นจากงานในมือราว 20 ลบ. ซึ่งเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำเพียง 2 ลบ. ใน 2Q17 จะทำให้กำไรโตแรง Y-Y ส่วนประเด็นเพิ่มเติมคือ COMAN ได้เข้าลงทุนในบริษัท วินสตาร์เทค ผู้พัฒนาซอฟแวร์ในสนามกอล์ฟและศูนย์กีฬา 85% ใช้เงินลงทุน 14.58 ลบ. คาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนกำไร 1-2 ลบ. ต่อปีตั้งแต่ 2H18 เรายังคงคาดกำไรปีนี้ 31 ลบ. ทรงตัว Y-Y และคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 พ.ค.
|
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- อังกฤษ: ประชุม MPC คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.5%
|
11 พ.ค.
|
- สหรัฐฯ: ถ้อยแถลงของประธาน ECB
|
21 พ.ค.
|
- ไทย: 1Q18 GDP
|
23 พ.ค.
|
- ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กม. ลูก เลือกตั้ง ส.ว. และ ส.ส.
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบกลับมายืนเหนือ 70 ดอลลาร์/บาเรลล์ อีกครั้ง
- (+) ตลาดหุ้นยุโรปเองก็ได้ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานเนื่องจากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่อาจจะลดลง
- (+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากเกาหลีเหนือได้ปล่อยตัวชาวอเมริกันสามคน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีจากการเจรจาครั้งล่าสุด รวมไปถึงความชัดเจนเรื่องการเมืองในมาเลเซีย หลังจากนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง
- () ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท โดยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
- (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 2.08 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 71.14 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตลาดกลับมากังวลเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านจากทางสหรัฐ
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,313.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ข่าวเด่น