สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.35 จุด บาทอ่อนทะลุ 32 บ./$, ต่างชาติขายต่อเนื่อง

  SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1751-63 แม้กลุ่มพลังงานปรับขึ้นจากราคาน้ำมัน WTI ขึ้นมาซื้อขายเหนือระดับ 70$ อีกครั้ง หลังสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่เงินบาทอ่อนค่าสุดใหม่รอบ 4 เดือน กดดันเงินทุนตปท.ไหลออกต่อเนื่อง ต่างชาติขายสุทธิ 1.83 พันลบ. 13 วันติด และ Short S50 Futures 8,420 สัญญา 2 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นรีบาวด์ ตาม Sentiment บวกจากหุ้นตปท.และราคาน้ำมัน
  หุ้นโลกเมื่อวาน (9 พ.ค.) บวกกันถ้วนหน้า จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขานรับราคาน้ำมันทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปีครึ่ง หลังปธน.ทรัมป์ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน สร้างความกังวลต่อการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ และ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาด มอง SET มีลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิคหลังจากร่วง 5 วันติด ได้อานิสงส์ Sentiment หุ้นตปท.และหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีคาดว่าจะปรับขึ้นนำตลาด และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลังราคาร่วงลงแรงเมื่อวานแต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดีดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ (US Dollar Index) ที่ทะลุขึ้นเหนือ 93 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และ 10Y US Bond Yield ที่แตะระดับ 3% อีกครั้ง จะกดดันเงินทุนตปท.ไหลออกอยู่ ทำให้กรอบการฟื้นตัวเป็นไปอย่างจำกัด แนะนำติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ คืนนี้ และการทยอยประกาศงบที่จะออกมามากขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ (วันนี้ มีหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT, ADVANC, IVL, TOP, SPRC) แนวรับ 1752, 1740-45 แนวต้าน 1762-65, 1770-75

กลยุทธ์การลงทุน : Wait&See รอดูสถานการณ์ก่อน / หากเก็งกำไรควรจบในวัน
  การเทรดดิ้งระยะสั้น กลยุทธ์หลัก คือ Wait&See รอดูสถานการณ์ก่อน หาก SET รีบาวด์ต้องกลับมายืน 1775 เป็นอย่างน้อย Sentiment จึงจะเริ่มดีขึ้น และอาจเป็นจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ มิฉะนั้นเรามอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกลง มีเป้าหมายทดสอบโลว์เดิมที่บริเวณ 1725-30  แต่สำหรับ นลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจเลือกเก็งกำไรแบบจบในวัน

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick COM7 – ประกาศกำไรสุทธิ 1Q18 ที่ 175 ลบ. ดีกว่าเราและตลาดคาดที่ 152 ลบ. และ 162 ลบ. ตามลำดับ ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 46% YoY จากการวางขายสินค้ารุ่นใหม่และการขยายช่องทางจำหน่าย แต่กำไรที่ลดลง 17% QoQ มาจากปัจจัยฤดูกาล, มองแนวโน้มกำไรปีนี้จะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ และจะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยราว 18% ต่อปีในปี 2019-20F, เป้าพื้นฐาน 20.5 บ. / หุ้นมีโอกาสเข้า MSCI รอบนี้ (รู้ 14 พ.ค.) – KTC, BEAUTY, GULF ออก - KCE / เงินบาทอ่อนค่าช่วยกระตุ้นบรรยากาศลงทุนหุ้นส่งออก-ท่องเที่ยว ชอบ DELTA, HANA, JWD, SAPPE, ERW, MINT / หุ้นงบที่คาดจะดี – โต YoY & QoQ ชอบ AOT, BDMS, BEM, BH, CHG, CK, CPN, ERW, GPSC, LH, PLANB, TPCH, TVO / โต YoY ชอบ AP, BEAUTY, BTS, JWD, PTTGC, QH, RS, WHA / TPIPL จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันลบ. จำนวน 1,009 ล้านหุ้น รอประชุมผถห.อนุมัติ 25 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มซื้อหุ้นคืน 16 ก.ค. – 15 ม.ค. / Bond Yield ไทยเริ่มปรับขึ้นตาม Bond Yield สหรัฐฯ เป็นผลดีต่อ BLA / การฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตฯ ยานยนต์ AH, SAT, NYT / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – BLAND (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) / หุ้นได้ประโยชน์ EEC ชอบ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, AMATA, ROJNA, WHA
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ BJC (เป้าสั้น 63.5 บ.), GPSC (83 บ.), THAI (18 บ.) / ถือ COM7 (20.2 บ.) / ถึงเป้าทำกำไร TRUE (+5.2%) / ขายตัดขาดทุน AEONTS (-3.4%), MONO (-3.4%)
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEAUTY, BTS, CPN, HMPRO, PLANB, QH

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research