คำแนะนำ
สามารถถือทองคำต่อได้หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้นขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,331-1,337ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,316 1,302 1,294
แนวต้าน 1,337 1,346 1,356
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 2.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.บริเวณ 1,325.92 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวลงในกรอบจำกัดเช่นกัน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 3% อีกครั้งหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดซึ่งช่วย “ลด” กระแสการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยให้เหตุผลว่าการปรับขึ้นต่อไปอีกก็จะเกิดความเสี่ยงที่จะกระทบต่อการลงทุนในภาคธุรกิจและการจ้างงาน ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงในวันศุกร์ -5.31 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนำติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านประกอบการลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือบริเวณแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ อาจจะเห็นการดีดตัวกลับขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,331-1,337ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้ราคายังคงอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยหากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจขายทองคำออกมาเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณ 1,331-1,337ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอจังหวะเข้าซื้อคืนเมื่อราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวอาจถอยจุดเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไปที่ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น