|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET รีบาวด์ขึ้นได้ดีกว่าคาดโดยสามารถปิดบวกได้ถึง 19 จุด ณ สิ้นวัน หนุนโดยแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่เกือบทุกกลุ่มหลังจากที่ปรับฐานในช่วงหลายวันก่อนหน้า นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 2 พันลบ.หลังขายติดต่อกัน 14 วันทำการ (และพลิกมา Long ใน Index Futures 4.9 พันสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิอีก 1.1 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways หลังที่ปรับตัวขึ้นแรงวันศุกร์ แต่เรามองกรอบการรีบาวด์ยังจำกัดอยู่บริเวณ 1,770-1,780 จุดเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่ต้นสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศกำไร 1Q18 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งโดยรวมเท่าที่ประกาศออกมาแล้วถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ยังไม่ขั้น Surprise ในเชิงบวกอย่างมีนัยยะจนนำไปสู่การประบประมาณการขึ้น จึงยังมองว่าหุ้นที่มีกำไรโดดเด่นและยัง Laggard ตลาดน่าจะสามารถ Outperform
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 1Q18 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$514ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$302ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$63ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$31ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EA <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท
- กำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 1,947 ลบ. โดยมีรายการพิเศษจากการเปลี่ยนสถานะของ Amita จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อยราว 895 ลบ. ถ้าหักออก กำไรปกติเกิน 1 พันลบ. เป็นไตรมาสแรกตามคาด
- แนวโน้มกำไร 2Q-3Q18 จะทรงตัวต่อเนื่องก่อนไปพุ่งขึ้นอีกครั้งใน 4Q18 จากการ COD โรงไฟฟ้าลมเพิ่มอีก 260MW
- เราคาดกำไรทั้งปีที่ 4,805 ลบ. +28% Y-Y และปีหน้า +29% Y-Y ราคาหุ้นตอนนี้คิดเป็น PE2018 ที่ 27 เท่า และจะลดเหลือ 21 เท่าในปีหน้า และจะลดในอัตราเร่งเมื่อเริ่มทำ Batery storage ในปี 2020
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) BANPU ขาดทุนสุทธิใน 1Q18 ที่ 1,263 ลบ. ใกล้เคียงคาด จากค่าแพ้คดี 2.7 พันลบ. และมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนอีก 1.1 พันลบ. ถ้าหักรายการพิเศษเหล่านี้ออก กำไรปกติอยู่ที่ 2,596 ลบ. +12% Q-Q, +9% Y-Y ธุรกิจที่โตดียังเป็นถ่านหินซึ่งราคายังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องใน 2Q18 แต่ยังมีความเสี่ยงระยะยาวจากมาตรการลดมลพิษในจีน แนะนำเพียงเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 26 บาท
(+) CPALL กำไรสุทธิ 1Q18 เท่ากับ 5,417 ลบ. (-2% Q-Q, +13.7% Y-Y) หากไม่รวมภาษีจากการขายหุ้น MAKRO 114 ลบ. จะมีกำไรปกติเท่ากับ 5,530 ลบ. (ทรงตัว Q-Q, +16.2% Y-Y) SSSG ของ 7-11 ยังดีต่อเนื่อง +5.6% Y-Y ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นราคาบุหรี่และแอลกอฮอล์ และมีการเปิดสาขาใหม่อีก 265 แห่งขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทำได้ 22.2% ปรับขึ้นเล็กน้อยจาก 22% ใน 1Q17 แต่ปรับลงจาก 22.6% ใน 4Q17 เพราะ Product Mix แนวโน้มกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ไว้ที่ 24,481 ลบ. (+23% Y-Y) และคงราคาเป้าหมายที่ 98 บาท แนะนำซื้อ
(-) BLA แม้ว่ากำไร 1Q18 ดีกว่าคาด แต่คาดว่าน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีและไตรมาสที่เหลือจะไม่สดใสนัก เราจึงคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 3.7 พันลบ. +2% Y-Y โดยมีความเสี่ยงรายได้เบี้ยประกันรับที่เกิดขึ้นจากตารางมรณะใหม่และช่องทางการขายประกันผ่านธนาคารที่ค่อยชะลอตัวลง คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 37.50 บาท ราคาขึ้นมาเรามองเป็นโอกาสขาย (จากเดิมถือ)
(+) ROBINS กำไรสุทธิ 1Q18 เท่ากับ 762 ลบ. (-7.1% Q-Q, +7.3% Y-Y) ใกล้เคียงคาด ที่อ่อนตัว Q-Q มาจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนสาเหตุที่โต Y-Y มาจาก SSSG ที่พลิกเป็นบวก 1.8% Y-Y ครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส สัดส่วนสินค้า House Brand เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.7% ของรายได้รวม จาก 10.1% ใน 1Q17 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นมาอยู่ที่ 25.5% จาก 25.2% ใน 4Q17 และ 25.3% ใน 1Q17 และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าเช่ายังทำได้ดีอยู่ที่ +11.8% Y-Y จากสาขาใหม่ที่เปิดในปีก่อน แนวโน้มกำไรจะเติบโตต่อเนื่องใน 2Q18 เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนและมีวันหยุดยาว เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีไว้ที่ 3.1 พันลบ. (+13.5% Y-Y) คงราคาเป้าหมายที่ 78 บาท แนะนำซื้อ
(+) SAT กำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 235 ลบ. ลดลง 16% Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 38% Y-Y ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 18.2% จาก 14.2% ใน 4Q17 และ 15.9% ใน 1Q17 จากผลของ Economy of scale และการโอนธุรกิจสปริงไป MSA แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปีจะโตแบบ Y-Y ทุกไตรมาส จากยอดผลิตรถยนต์ในประเทศที่ฟื้น ค่าเงินบาทที่พลิกกลับมาอ่อนค่า ชิ้นส่วนเครื่องจักรการเกษตรเร่งตัวขึ้น และ Synergy ในบริษัทร่วม เราคาดกำไรปกติปีนี้ +18% Y-Y อยู่ที่ 854 ลบ.คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 24.10 บาท
(+) BIG กำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 210 ลบ. -15% Q-Q, -12% Y-Y ตามคาด จากผลของกำลังซื้อที่ชะลอตัวในช่วงต้นปี เพราะถูกดึงไปล่วงหน้าจากมาตรการช้อปช่วยชาติ และความต้องการกล้อง Mirrorless ที่มาเร่งในช่วงปลายปี 2017 แต่ยอดรีเบทฟื้นตัวและกระแสเงินสดพลิกเป็นบวก สะท้อนอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตที่ดีขึ้น ราคาหุ้นที่ลงปลายสัปดาห์ก่อนเพราะข่าวลือว่าจะงบจะขาดทุน จนทำให้ PE2018-19 ต่ำเพียง 10 เท่า และปันผลสูง 6% ต่อปี เราจึงมองเป็นจังหวะซื้อรอบใหม่ ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท โดยคาดว่าจะเห็นกำไร 2Q18 กลับมาโตแรง Y-Y จากฐานที่ต่ำเพียง 155 ลบ. ใน 2Q17
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 พ.ค.
|
- MSCI Semi-annual index review
- ไทย: วันสุดท้ายรายงานผลประกอบการ 1Q18
- จีน: ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
|
16 พ.ค.
|
- ไทย: กนง.ประชุม คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
|
21 พ.ค.
|
- ไทย: 1Q18 GDP
|
23 พ.ค.
|
- ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กม. ลูก เลือกตั้ง ส.ว. และ ส.ส.
- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
|
- (+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังดัชนีราคาผู้บริโภคที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดทำให้สมาชิก FED บางคนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป
- (+) ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน หลังตลาดคาดการว่าการจัดตั้งรัฐบาลผสมในอิตาลีใกล้จะประสบความสำเร็จ
- (+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประเด็นสำคัญที่ตลาดคอยติดตาม คือบทบาทครั้งใหม่ของผู้นำประเทศมาเลเซีย และนโยบายการบริหารประเทศที่จะกระทบต่อสมาชิกอาเซียนในอนาคต
- () ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทหลังตลาดคาดว่า FED จะยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.80-31.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
- (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.66 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 70.70 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 844 แท่น
- ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,320.70 ดอลลาร์/ออนซ์
|
บันทึกโดย : วันที่ :
14 พ.ค. 2561 เวลา : 09:27:42
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น