Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound ตามภูมิภาค โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายยังคงมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงานต่อเนื่องนำโดย PTT, BANPU และกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้นเด่นนำโดย CPALL, BJC, GLOBAL ในขณะที่กลุ่มรถไฟฟ้ามีแรงซื้อต่อเนื่องอย่าง BTS, BEM อีกทั้งกลุ่มก่อสร้างเริ่มมีแรงซื้อกลับภายหลังปรับลงยาวนานกว่า 3 เดือนเช่น STEC, CK และกลุ่มสายการบินอย่าง THAI, AAV อย่างไรก็ตามกลุ่ม TV digital ยังคงเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่องเช่น WORK , BEC  และ MONO   ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,773 จุด (+7.1 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวานก่อนที่ 5.2 หมื่นล้านบาท   
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นที่  262 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 5,413 สัญญา  

Investment theme
  จับตาสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก : ในคืนวันนี้สหรัฐจะมีการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจได้แก่ ตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail sale) ซึ่งตลาดคาดไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 0.4%MoM (จากระดับ 0.6% เมื่อเดือนก่อน) ซึ่งหากออกมาต่ำคาดอีกเหมือนการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน กล่าวคือโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีการคาดไว้ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าตลาดคาด (รวม 4ครั้ง) อาจลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ในระยะสั้น Dollar และ Bond yield สหรัฐอาจชะลอตัว ภาพดังกล่าวถือเป็นบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเอเชีย ในขณะที่วิเคราะห์ความแข็งแรงของเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย เราพบว่าอยู่ในสถานะที่ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่มาก โดยเฉพาะดุลบัญชีเดินสะพัด (สูงกว่า 10% / GDP), เงินสำรองระหว่างประเทศ (สูงกว่า 40%/GDP), อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้เรามองว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเรื่องการไหลออกของเม็ดเงินที่จำกัด 
  Investment Theme:  สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC ในขณะที่เราแนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 และมีพื้นฐานดี นำโดย BGRIM, VGI และทยอยสะสม PRM

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –ธปท.เผยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เติบโต 4.7%ในขณะที่ NPLทรงตัวที่ 2.92%  / สถานกาณ์ตึงเครียดตะวันออกกลางยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายสิบคนหลังถูกกองกำลังอิสราเอลสังหาร หลังสหรัฐเปิดสถานฑูตแห่งใหม่ที่เยรูซาเลม เป็นแรงผลักดันให้ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้นต่อที่ 78.2 เหรียญ/บาร์เรล

กลยุทธ์การลงทุน
สรุปผลประกอบการ 1Q18 
  CPF - Core ขาดทุนน้อยกว่าคาดมาก จาก SG&A ที่ลดลง, Q2 ฟื้นตัวตาม Seasonal จากหมูในประเทศที่ดี แนะเก็งกำไร 23.50-25.00 บาท/หุ้น
  MACO – Core ทำสถิติสูงสุด แต่เจอตั้งสำรอง , Q2 ดีต่อ แนะซื้อลงทุน 
  DDD - Core รายได้ส่งออกต่ำคาด แต่ margin ดี ส่งผลให้กำไรใกล้ตลาดคาก , Q2 เติบโตต่อจากการได้ อย.ในจีนและขยายสาขาใน  Kingpower แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว 90.0 บาท
  CPN – Core เท่ากับคาด , คาด Q2/3 ดีต่อการจากโอนคอนโดและ Occ rate ของห้าง Ctw กลับมายืนเหนือ 90%อีกครั้ง แนะซื้อเมื่ออ่อนตัวบริเวณ 77.0 บาท
  BGRIM - Core ดีใกล้เคียงคาด, Q2 เติบโตต่อ QoQ ยังคงเลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม แนะซื้อ 34.0 บาท

Technical View

  Sideway Up ปะทะแนวต้านกรอบ Downtrend :  แรงซื้อต่อเนื่องหุ้น Big Cap. ทำให้ระยะสั้นดัชนียังแกว่ง Sideway Up ขึ้นในกรอบ Downtrend Channel ซึ่งมีสัญญาณเชิงบวกใน Slow Stochastic ที่ตัดขึ้นจากเขต Oversold สนับสนุน  แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักดัชนียังแกว่งตัวในกรอบ Downtrend จึงมองว่าว่าเป็น Rebound เพื่อทดสอบแนวต้านกรอบ Downtrend มองแนวต้านที่ 1780 และ 1790 เท่านั้น การลงทุนขณะนี้มองเป็นการเล่น Rebound สั้นๆ และขายทำกำไรที่แนวต้าน  กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสทยอยขายตามแนวต้านเพื่อลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาส Trading เล่น Rebound สั้นๆ หรือเทรดในกรอบ 1765-1790
  แนวรับ : 1765, 1745 แนวต้าน : 1780, 1790

Keep and eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก 15 พ.ค. /Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค. 
  ปัจจัยในประเทศ: การประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 16 พ.ค.

หุ้นเทคนิค:
  ADVANC (B 196.00, Tp 203.00, Cut 195.00)
  WHA (B 4.10-4.16, Tp 4.30 // 4.40, Cut 4.06)