Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมาเกิดแรงขายทำกำไรใน  SET ภายหลังปรับขึ้นกว่า 30 จุดในสองวันที่ผ่านมา โดยมีแรงซื้อเด่นใน BDMS, CPF ภายหลังประกาศงบออกมาดีกว่าตลาดคาด และมีแรงเก็งกำไร BANPU ภายหลังราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นเด่นที่ 104 เหรียญ สำหรับกลุ่มรถไฟฟ้ายังคงมีแรงซื้อเด่นต่อเนื่องใน BTS, BEM อย่างไรก็ตาม มีแรงขาย GULF, KTC, BEAUTY ภายหลังผิดตลาดคาดเรื่องการเข้า MSCI ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,766 จุด (-6.2 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนที่ 4.7 หมื่นล้านบาท   
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นที่  1,332 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 1,273 สัญญา  

   Investment theme
  Sentiment ไม่สดใส : เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานตัวเลขค้าปลีก เม.ย.ต่ำคาดเล็กน้อย 0.3% แต่ปรับยอดค้าปลีกเดือน ก.พ.และ มี.ค.ขึ้น 0.8% ส่งผลต่อความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด (ในเดือน ก.ย.) ล่าสุด Bond yield 10 ปีปรับขึ้นทะลุ 3.09% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 และ Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 93.3 โดยการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐครั้งนี้ สร้างความกังวลต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย , Emerging market ที่ไม่ดี ในขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่ได้ข้อสรุป ล่าสุดนาย Liu He รองนายกประเทศจีนได้เดินทางไปยังสหรัฐเพื่อหาทางออก โดยยืนยันข้อเสนอที่ Trump ต้องการกล่าวคือลดยอดขาดดุลการค้าลงในปี 2563 โดยการเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ แต่แลกด้วยการที่กระทรวงการค้าสหรัฐยอมยกเลิกการกีดกันบริษัท ZTE corp เช่นกัน (บริษัทเทคโนโลยีส่งออกอันดับหนึ่งของจีน ซึ่งมีฐานลูกค้าชื่อดังอย่าง AT&A , China mobile) ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยในเชิงกลยุทธ์เรามองว่ากลุ่มที่มีโอกาส Outperform ตลาดในช่วงนี้ได้แก่ กลุ่มรถไฟฟ้า (BTS, BEM) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL) และกลุ่มพลังงาน (PTTEP) 
  Investment Theme:  สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC ในขณะที่เราแนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 และมีพื้นฐานดี นำโดย BGRIM, VGI และทยอยสะสม PRM

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –เยอรมันรายงาน GDP ต่ำกว่าคาดที่ 0.3%MoM  / ราคาถ่านหินปรับขึ้นเด่นต่อเนื่องที่ 104 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุน
สรุปผลประกอบการ 1Q18 
  CK - Inline เรามองว่าราคาหุ้นมี Downside จำกัด , บริษัทลูกกำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตแนะเก็งกำไร 
  SPALI – ต่ำคาด 6% จาก SG&A ราคาหุ้นปรับตัวเด่น ใน 2 สัปดาห์ ยังไม่แนะ follow buy , รอซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง
  TPIPL - Core ขาดทุนสูงกว่า 284 ลบ , ยังเผชิญกับปูนที่ Over supply แต่กำลังเข้าสู่ช่วงการซื้อหุ้นคืน ประกอบกับมูลค่า TPIPP ส่ง  ผลให้จำกัด downside แนะเก็งกำไรในกรอบ 1.90-2.20 บาท 
  STANLY - อีกหนึ่งหุ้น Auto ที่กำไรเด่น สูงกว่าคาด 20% จาก Margin , แนะซื้อ 280 บาท

  Trading idea – –  เก็งกำไร BANPU กรอบ 22.0 บาท (แต่ไม่ควรหลุดต่ำกว่า 19.70) / CPF กรอบ 24.8-26.0

Technical View

  SET Index: เล่น Rebound ในกรอบ 1755-1795:  แนวโน้มหลักดัชนี Rebound ขึ้นในกรอบ Downtrend ส่วนในระยะกลางมองว่าแกว่งออกข้างในกรอบ 1755-1795 ซึ่งมีสัญญาณเชิงบวกใน Slow Stochastic ที่ตัดขึ้นจากเขต Oversold สนับสนุน  แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักดัชนียังแกว่งตัวในกรอบ Downtrend จึงมองว่าว่าเป็น Rebound เพื่อทดสอบแนวต้านกรอบที่ 1775 และ 1795 เท่านั้น การลงทุนขณะนี้มองเป็นการเล่น Rebound สั้นๆ และขายทำกำไรที่แนวต้าน กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสทยอยขายตามแนวต้านเพื่อลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาส Trading เล่น Rebound สั้นๆ หรือเทรดในกรอบ 1755-1795
แนวรับ : 1755, 1745 แนวต้าน : 1775, 1795

Keep an eyw on...
  ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค. 
  ปัจจัยในประเทศ: การประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 16 พ.ค.

หุ้นเทคนิค:
  BANPU (B 20.50//20.70, Tp 22.00//22.50, Cut 20.30)
  LH (B 10.80, Tp11.80, Cut 10.50)