ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน (16/05/61)


 Today Selections  >>  AMATA, AP, ERW

Stock     S       R    Comment
AMATA   20.00   22.00  การขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไทย
AP       8.55    9.45  หุ้น High Dividend Yield ประกาศกำไรเติบโต พร้อมปรับเป้ายอด Presale ครึ่งหลังยังมีโครงการต่อเนื่อง
ERW      7.80    8.50  นักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว และ การขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง

UST Yield reached new high
          UST Yield : ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมากังวลกับประเด็น Bond yield สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยล่าสุดรุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวทะลุ 3% มาอยู่ที่ 3.07% ถือเป็นระดับสูงสุดใหม่ของรอบนี้ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากคาดการณ์ของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นว่า Fed จะมีการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยหากดู Fed Funds futures ล่าสุดจะพบว่า Probability ของการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้งในปีนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 41.1% สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 38.9%
          มุมมองของเรา : ประเมินการปรับขึ้นของ Bond yield ดังกล่าวส่งผลกดดันต่อ Earning yield gap ของ SET Index อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทยยังคงทรงตัวถึงหดตัวเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้คาดว่าอาจเห็นแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น จนส่งผลให้ Upside ของดัชนีในสัปดาห์นี้อยู่ในระดับจำกัด ล่าสุดเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้งมาอยู่ที่ระดับ 32.1 บาท/ดอลลาร์
          กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นและ Wait & See หลังจากดัชนีอาจได้รับแรงกดดันจาก Fund outflow ในระยะสั้น หลังจาก Bond yield สหรัฐฯปรับตัวขึ้น และมีปัจจัย Geopolitical risk จากการที่เกาหลีเหนือตัดสินใจยกเลิกการประชุมระดับรัฐมนตรีกับเกาหลีใต้ในวันนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้ยังคงดำเนินการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ
          โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในความเห็นของเรายังคงได้แก่ 
          1) กลุ่ม Cyclical ที่ราคาอ่อนตัวลงมาตามคาดจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้ว ได้แก่ PTT, PTTGC, BANPU, IVL
          2) กลุ่มโรงแรมที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT, ERW
          3) กลุ่มนิคมฯและ Logistics properties ที่ได้ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA
          4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มี Dividend yield อยู่ในระดับสูง ได้แก่ QH, AP
          5) กลุ่มสื่อสารที่มี Regulatory risk ที่ลดลง ประกอบกับความน่าจะเป็นที่จะได้รับมาตรการเยียวยาจากภาครัฐมีสูงขึ้น ได้แก่ ADVANC, TRUE
          6) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่ MSCI Global Standard Index และ Small Cap Index ที่มี Market cap ขนาดใหญ่ เช่น LH, TPIPL, THG รวมถึงหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป และราคายังปรับตัวขึ้นมาไม่มาก ได้แก่ RATCH, BGRIM, ESSO

          แนวรับ  1,751  แนวต้าน 1,775

บทวิเคราะห์วันนี้

  • ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท) กำไรอ่อนแอ จากเลื่อนโอน Ashton Asoke
  • CPF (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท) กำไร 1Q61 ยังอ่อนแอ แต่เริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัว
  • CK (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 32 บาท) 1Q61 รายได้อ่อนลงเล็กน้อย แต่กำไรงามจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายบริหารที่ลดลง คาดปีนี้ ยอดขายและมาร์จิ้นกำไรได้ตามเป้าของผู้บริหาร
  • JMART (ถือ ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท) สำรองหนี้จาก J Fintech และ SINGER กดดันผลการดำเนินงาน

Today's Event :

  • BJC ลูกหุ้นเข้า 2,086,600 หุ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ค. 2561 เวลา : 10:04:57

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:48 am