คำแนะนำ
นักลงทุนที่มีทองคำในมือ อาจแบ่งขายบางส่วนหากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน และรอการอ่อนตัวลงของราคา หากสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นอีกครั้ง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,280 1,271 1,263
แนวต้าน 1,297 1,306 1,315
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือหลังเกาหลีเหนือขู่ที่จะยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และคิม ล่าสุดในวันศุกร์เกาหลีเหนือไม่อนุมัติรายชื่อผู้สื่อข่าวของเกาหลีใต้ที่จะเข้าร่วมพิธีรื้อถอนฐานทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินปุงเยรีในวันที่ 23-25 พ.ค. ด้านการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนถึงแม้จะมีสัญญาณในเชิงบวกออกมาเป็นระลอกแต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ปัจจัยดังกล่าวสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับทองคำในช่วงวันศุกร์ จนกระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า “สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้าและตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว” ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงเห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเช้านี้และกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำในวันศุกร์ -0.83 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามแถลงการณ์ของประธานเฟดแอตแลนตา
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่ง ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านถัดไป 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะขายระยะสั้นในบริเวณ 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเปิดสถานะซื้อ แต่หากหลุดโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา
ข่าวเด่น