ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เออีซี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวขานรับสัญญาณบวก (21/05/61)


 AECS Daily Focus

          Trading Idea : TSR

Connect the World- (P.2)

  • สหรัฐฯ-จีนบรรลุข้อตกลงหยุดเก็บภาษีนำเข้าชั่วคราว และทำกรอบการค้าร่วมกัน

Market Outlook

  • สัปดาห์ก่อนตลาดหุ้นไทยผันผวนเชิงลบ โดยดัชนีปรับตัวลงไปปิดที่ 1,754.17 จุด ลดลง 0.67%WoW  จาก Fund Flow ที่ไหลออกหลังกังวล Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นมาแรง
  • สัปดาห์นี้คาด SET Index แกว่งตัวกรอบ 1,745-1,780 จุด โดยดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวขานรับสัญญาณบวกหลังสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงว่าจะไม่ทำสงครามการค้าระหว่างกัน

Market Factors

  • (0) ตลาดหุ้น DJIA ปิดทรงตัวที่ระดับ 24,715.09 จุด หลังนักลงทุนอยู่ระหว่างจับตาการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
  • (-) ตลาดน้ำมัน WTI ปิด -0.3%DoD จากแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง
  • (+) วานนี้สหรัฐและจีนออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงไม่ทำสงครามการค้าระหว่างกันชั่วคราว โดยจีนจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มเพื่อยุติข้อพิพาท
  • (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ศก. สหรัฐที่สำคัญ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง เม.ย., รายงานประชุมนโนบายการเงินของเฟด รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น พ.ค. ของสหรัฐฯและประเทศในกลุ่มยูโรโซน, ตัวเลข GDP 1Q61 ของไทย

Investment Strategy

  • แม้สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังมีปัจจัยบวกจากการยุติข้อพิพาททางการค้าชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่อย่างไรก็ดีกรอบการขึ้นของดัชนีคาดยังจำกัด หลังภายในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงยังคงแนะนำให้ "Wait&See" จนกว่า SET จะกลับมายืนเหนือ 1,780 อีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้ "ขึ้นขายลงซื้อ หมุนรอบเร็ว"ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ได้แก่

          1) หุ้นที่งบ 1Q61 ออกมาดีและช่วง 2Q61 ยังมีโมเมนตัมโตต่อ : กลุ่ม รพ.(BDMS, BCH, RJH), กลุ่มค้าปลีก (BJC, MC), กลุ่มบันเทิง (RS, MAJOR, JKN), กลุ่มอสังหา (AP, SPALI, SC), กลุ่มโรงแรม (CENTEL, ERW)
          2) หุ้นกลุ่มนิคมฯ ที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย EEC : WHA,  AMATA, ROJNA
          3) หุ้นที่นำเข้าคำนวณ MSCI Index ซึ่งคาดมีศักยภาพโตดีและราคาหุ้นยังมี Upside Gain น่าสนใจ โดยจะมีผลบังคับใช้ 31 พ.ค. นี้ : LH, THG, DDD, MONO

Market Talks and News

  • JKN (BUY:TP@16.80) : ช่วง 1H61 คาดกำไรสุทธิโต ทั้ง YoY และ HoH หลังได้รับคำสั่งซื้อลิขสิทธิ์ซีรี่ย์อินเดียและฟิลิปปินส์จากกลุ่มผู้ให้บริการดิจิตอลทีวี (มาร์จิ้นสูง) และกลุ่ม VOD มากขึ้น ส่วนทั้งปี 61 คาดกำไรสุทธิโต 51.5%YoY หลังได้อานิสงค์บวกจากอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวีที่ฟื้นตัวและเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้ากลุ่ม CLMV + ราคายังมี Upside 41.2%
  • WHA (BUY: Consensus TP@4.64) : ปี 61 คาดกำไรเติบโต 6.7%YoY หนุนด้วยเป้าหมายอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้ที่ 20%YoY จากเป้าขายที่ดินราว 1.4 พันไร่ บวกกับ ช่วงปลายปีนี้มีแผนขายสินทรัพย์ให้กองทรัสต์ทั้ง  WHART และ HREIT มูลค่ารวมราว 3-4 พันลบ, + ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 9.5% จึงคงแนะนำ "ซื้อ"

Quantitative Screening

  • หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก EA, AH

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 พ.ค. 2561 เวลา : 10:03:53

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:34 am