คำแนะนำ
แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยในระยะสั้นหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวในช่วงสั้นและแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,280 1,271 1,263
แนวต้าน 1,299 1,306 1,315
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ลดช่วงบวกลงหลังขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,298.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ขานรับการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 55.7 ในเดือนพ.ค. โดยราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงความไม่แน่นอนของการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่อาจจะไม่เกิดขึ้นอย่างที่วางแผนไว้ในวันที่ 12 มิ.ย. นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 1-2 พ.ค.ซึ่งนักลงทุนตีความว่ารายงานดังกล่าว ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แต่อย่างใดซึ่งปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้าน (HPI), ยอดขายบ้านมือสองและสุนทรพจน์ของประธานเฟดแอตแลนตา
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำพยายามทดสอบบริเวณ 1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
ข่าวเด่น