Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายเด่นในช่วงเช้า นำโดยแรงขายจาก PTT, PTTEP และค้าปลีกอย่าง CPALL, BEAUTY ในขณะที่ MINT มีแรงขายเด่นภายหลังประกาศซื้อสัดส่วน NH Hotel Group มูลค่า 7.4 พันล้านบาท และแรงขายใน SCC ภายหลังกังวลต้นทุนปูนที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายเกิด Technical rebound ภายหลังผลของศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่าร่างส.ว.ไม่ขัดต่อศาล โดย VGI ปรับขึ้นเด่น จากการแถลงครบรอบ 20 ปี และมีแรงซื้อต่อเนื่องใน EA, GGC ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,753 จุด (-7.1 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนที่ 5.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 4,944 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 12,425 สัญญา
Investment theme
ศาลรธน.ลงมติร่างส.ว.ไม่ขัดพร้อมนัดตีความ ส.ส. สัปดาห์หน้า FED ส่งสัญญาณสำคัญ :เมื่อวานที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการได้มาซึ่งส.ว. ไม่ขัดรธน. พร้อมนัดตีความพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้งส.ส. ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ถือว่าเร็วกว่าที่เราคาดไว้ ประเด็นดังกล่าวถือเป็น Sentiment บวกต่อโอกาสการเลือกตั้งตาม Roadmap ในเดือน ก.พ. ปีหน้า โดยหากร่างฉบับการเลือกตั้งส.ส.ไม่ขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญ ลำดับถัดไปคือให้นายกนำร่างทั้ง 2 ขึ้นทูลเกล้า (90 วัน) เพื่อประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเข้าสู่จุดเริ่มต้นของกระบวนการเลือกตั้ง โดยกลุ่มที่เรามองว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นหากเห็นสัญญาณการเลือกตั้งได้แก่ 1) กลุ่มค้าปลีก 2) กลุ่มก่อสร้าง-รถไฟฟ้า และ 3) Out of Home media. และสำหรับการประชุม Minute ระบุถึงโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีในเดือนมิ.ยที่ 1.75-2.0% มีโอกาสสูง (Bloomberg ปรับเพิ่มโอกาสจาก 72% เป็น 84%) แต่ใจความสำคัญกล่าวถึงอาจปล่อยให้เงินเฟ้อทะลุเป้า 2.0% ที่วางไว้ได้ในระยะสั้นเนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวแรงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้โอกาสการปรับขึ้นรอบ 2.0-2.25% ลดลงเล็กน้อย ส่งผลให้ Bond yield 10 ปีสหรัฐปรับลดลงเหลือ 2.99% ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการผ่อนคลายความกังวลในการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ อย่างไรก็ตามเราแนะดูตัวเลขสำคัญเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนมิ.ย.เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,750-1,770 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร IVL, BANPU ในขณะที่เรา แนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 และมีพื้นฐานดี นำโดย VGI และทยอยสะสม PRM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา –ฝรั่งเศสรายงานอัตราว่างงานสูงกว่า 9.2% แสดงถึงเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว / คสช.ออกมาตรา44 บรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการ TV-digital แล้ว / อังกฤษรายงานเงินเฟ้อต่ำสุดในรอบ 13 เดือนที่ 2.4%
Stock pick : IVL
IVL : ทยอยสะสม 70.00 บาท/หุ้น
ภายหลังหุ้นพลังงานอย่าง PTT เผชิญกับ Policy risk จากโอกาสการคลุมราคาน้ำมันดีเซล และราคา PTTEP ที่ปรับขึ้นเด่นทำให้ Upside เริ่มจำกัดส่งผลให้เราแนะ Switch เข้าลงทุนในกลุ่มปิโตรที่มีความเสี่ยงเชิงนโยบายจำกัดอย่าง IVL ด้วยราคาเหมาะสม 70.0บาท/หุ้น
คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เติบโต YoY, QoQ จาก Seasonal ธุรกิจ PET และ PTA ในขณะที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น QoQ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสามารถรับรู้รายได้จาก M&G Chemical ประเทศบราซิล (กำลังการผลิต PET 550KTA/ปี) อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลัง คาดบริษัทสามารถรับรู้กำไรจากการลงทุนใน Avgol 65.7% (กำลังการผลิตรวม 203KTA/ปี) ทำให้ทิศทางกำลังการผลิตของ IVL จะเพิ่มขึ้นรายไตรมาสไปจนถึงสิ้นปี
คาดกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ เติบโตสูงกว่า 42% เป็น 2.06หมื่นล้านบาท สูงที่สุดในอุตสาหกกรรม คงคำแนะนำ ซื้อ 70.0บาท/หุ้น
Trading idea – ทยอยสะสม BANPU (21.00-22.00) / ชะลอการลงทุนใน BGRIM (จากความไม่แน่นอนของ 2 โครงการในราชบุรี) / สะสม BTS คาดรายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้ออกมาเติบโต
Technical View
พิจารณาแนวรับ 1745 เป็นหลัก: แรงขายต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีแกว่ง Sideway Down ต่อ แต่ยังไม่หลุดแนวรับ 1745 จึงยังคงมองว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1745-1775 ในระยะสั้นคาดดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับของกรอบที่ 1745 อีกครั้ง ขณะนี้ให้พิจารณากลุ่มพลังงานเป็นหลัก หากยังไม่มีแรง Rebound คาดมีโอกาสหลุด 1745 ซึ่งจะมีแนวรับถัดไปที่ 1725 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายตามแนวต้านเพื่อลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: หากไม่หลุดแนวรับ 1745 พิจารณากรอบการเทรด 1745-1775 เน้นลงซื้อขึ้นขาย
แนวรับ : 1745, 1725 แนวต้าน : 1760, 1775
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: Merkel เยือนจีน 24-25 พ.ค.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
WHA (B 4.30-4.34, Tp 4.60//4.70, Cut 4.26)
IVL (B 60.50, Tp 63.00, Cut 59.50)
ข่าวเด่น